ตอนที่ 13
ไพโรจน์ถือกระเป๋าเอกสารออกจากห้องประชุมแล้ว เหล่าคณะกรรมการรุมถามนพดล
“แล้วอย่างนี้จะทำยังไง”
นพดลพยายามตั้งสติ แต่ก็ยังหายใจแรงอย่างแค้นจัด กำหมัดแน่น
“มาถึงขนาดนี้แล้ว ผมไม่ยอมแพ้แน่ๆ”
คณะกรรมการทุกคนพ่นลมหายใจกันอย่างเซ็งๆ ก่อนจะพากันเดินหน้าเครียดออกไป นพดลปัดข้าวของบนโต๊ะหล่นกระจายพร้อมสบถอย่างไม่สบอารมณ์
“โธ่เว้ย!”
ooooooo
ช่อแพรรออยู่แล้วบริเวณหน้าออฟฟิศ
เขมวัฒน์ ไพโรจน์เดินมาประจันหน้าพร้อมดักคอ
“ไม่ต้องขอบคุณผมก็ได้ครับเพราะผมรู้ว่าคุณช่อคงไม่พูดคำนั้น แล้วผมเองก็แค่ทำในสิ่งที่เจ้าสัวต้องการ”
“ฉันมีเวลาเท่าไหร่ที่จะเอาทุกอย่างคืน”
“ตามระเบียบตำแหน่งประธานว่างได้ไม่เกินหนึ่งเดือน ระหว่างนี้พวกคุณนพดลจึงทำอะไรไม่ได้ ยกเว้นว่า...”
“พอละ ไม่ต้องพูดมาก ถ้าคุณอยากให้สิ่งที่พ่อฉันตั้งใจไว้สำเร็จ ระหว่างนี้คุณต้องรักษาพินัยกรรมให้ดีที่สุด”
ไพโรจน์พยักหน้าแล้วผละไป ช่อแพรแสยะยิ้มร้าย คิดถึงหมากสำคัญที่เธอจงใจโทร.บอกวิทยาเพื่อยกเลิกคำสั่งฆ่า นั่นก็คือดาวประดับ!
“เพราะตอนนี้ฉันต้องใช้นังดาวประดับเอาทุกอย่างที่เป็นของฉันคืนไง”
เวลาเดียวกันนั้น...ดาวประดับหรือหมากคนสำคัญของช่อแพรดึงดันทำตามความตั้งใจเดิมคือจะไปถามเรื่องช่อแพรจากนพดล แต่ศิวกรที่อาการยังไม่ดีขึ้นขัดขวางไว้
“ผมบอกแล้วไงว่าตอนนี้คุณไม่ควรออกไปไหน”
“ถ้ามันเป็นบริษัทของนาย นายก็ทำแบบฉันเหมือนกัน”
ดาวประดับไม่ยี่หระคำเตือนของเขา ปรี่ไปหน้าบ้านเพื่อเรียกแท็กซี่ ศิวกรเลยต้องตัดสินใจ
“ถ้าอย่างนั้นผมก็...ขอโทษ”
“งั้นนายให้ฉันยืมรถใช่ไหม”
“ผมไม่ได้ขอโทษที่ผมห้ามคุณ ผมขอโทษที่ผมต้องใช้กำลังกับคุณต่างหาก”
ขาดคำก็รวบรวมแรงแบกเธอพาดบ่าเข้าบ้าน ดาวประดับตกใจถึงกับหวีดร้องและทุบตีเขาพัลวัน
“นี่...ทำอะไรของนายเนี่ย ปล่อย...ปล่อยฉัน เดี๋ยวนี้!”
ศิวกรไม่ปล่อยและไม่สนใจด้วยว่าเธอจะดิ้นรนสักแค่ไหน แบกเธอขึ้นข้างบนไปจนได้...
ทางด้านนพดลหลังโดนช่อแพรฉีกหน้ากลางห้องประชุมก็โทร.หาเดชาเพื่อหารือด่วน เดชาโกรธมากเมื่อรู้ว่าไพโรจน์มาแจ้งเงื่อนไขสำคัญในพินัยกรรมของเจ้าสัวบุญนำ
“บ้าเอ๊ย! ทำไมแกไม่เคยบอกเรื่องที่ไอ้ทนายนั่นมันมาหาช่อแพร”
“ก็ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นทนายนี่หว่า ใครจะไปคิดว่าไอ้เจ้าสัวบ้านั่นจะทำพินัยกรรมบ้าบออย่างนั้น เดี๋ยว...แกพูดอย่างนี้แสดงว่าแกรู้เรื่องที่เจ้าสัวมันทำพินัยกรรมนั่นไว้ใช่มั้ย”
“นี่คือสิ่งที่ฉันรอมาตลอด”
“ถ้าอย่างนั้นแกก็รู้ว่าไอ้เจ้าสัวบ้านั่นมันมอบอีกครึ่งให้ใคร”
“แล้วแกคิดว่าใครล่ะ คำตอบมันอยู่ในคำพูดที่ช่อแพรบอกแกแล้วไง”
นพดลคิดตามก่อนจะนึกย้อนกลับไปตอนที่ช่อแพรบอกว่าคนที่จะได้มรดกก็คือคนที่มีนามสกุลเขมวัฒน์เท่านั้น
“อย่าบอกนะว่าคนที่จะได้มรดกของเขม–วัฒน์อีกครึ่งนึงก็คือ...”
“ดาวประดับ”
นพดลหรี่ตาอย่างเจ้าเล่ห์ร้ายกาจเมื่อรู้เป้าหมาย ขณะที่เดชาเองก็กำลังคิดแผนการบางอย่างอยู่ในใจ
ooooooo
ศิวกรจับดาวประดับขังในห้องเพราะไม่อยากให้เธอมีอันตรายเหมือนที่ผ่านมา หญิงสาวไม่ยอม กรีดร้องขอให้เขาเปิดประตู แต่ต้องชะงักเพราะมีสายเรียกเข้าจากเดชา
เดชามีแผนร้ายจะลวงดาวประดับมาฆ่า เลยแกล้งโทร.หาเธอโดยใช้เรื่องปราณนท์มาล่อหลอก
“ตอนนี้คุณดาวอยู่ไหนครับ”
“มีอะไรเหรอคะ”
“คุณดาวทำใจดีๆนะครับ เมื่อกี้ทางโรงพยาบาลเพิ่งโทร.บอกผมว่าคุณท่านอาการแย่ลงครับ”
“ว่าไงนะคะ ที่บอกว่าแย่คือแย่แค่ไหนคะ”
“ผมเองก็ยังไม่ทราบรายละเอียดมากครับ รู้แต่ว่าทางคณะแพทย์ให้ผมโทร.แจ้งคุณดาวให้ไปที่โรงพยาบาลด่วนครับ เผื่อว่ามันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณดาวได้อยู่กับคุณท่าน”










