ตอนที่ 13
เมทินีพยักหน้ารับแล้วควงนพดลเข้าห้องประชุม ทิ้งให้ช่อแพรกรีดร้องเมื่อพวก รปภ.เข้ามารุมจับตัวเธอ
“อย่ามาแตะตัวฉันนะ!”
ช่อแพรค่อยๆลุกขึ้น มองตามนพดลกับเมทินีด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยแรงแค้น
ooooooo
นพดลควงเมทินีเข้าห้องประชุมไปกล่าววิสัยทัศน์ในฐานะประธานกรรมการบริหารคนใหม่ เหล่าคณะกรรมการชุดเดิมมาร่วมแสดงความยินดีพร้อมแชมเปญขวดใหญ่
“ดีใจด้วยนะนพดล แล้วก็อะไรที่เคยสัญญากับพวกเราไว้คงจะเป็นไปตามนั้นใช่ไหม”
“แน่นอนครับ ที่จริงวันนี้ผมไม่อยากเรียกว่าวันรับมอบตำแหน่งอะไรหรอก มันดูซีเรียสไป อะไรดีอยู่แล้วก็แค่ทำตามนั้น ส่วนเรื่องเงินกับหุ้นที่ผมสัญญากับทุกคน รอไว้เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วผมจะรีบจัดการให้ทันที”
เหล่าคณะกรรมการเฉลิมฉลองอย่างย่ามใจ กระทั่งไพโรจน์ปรากฏตัว นพดลโพล่งถามเสียงเข้ม
“แกเข้ามาทำไม”
“ผมชื่อไพโรจน์...เป็นทนายประจำตระกูลเขมวัฒน์ครับ”
“อ้อเหรอ หูตาไวจริงๆนะคุณเนี่ย ดี! จะได้ทำเรื่องเอกสารให้เรียบร้อยไปเลยทีเดียว”
“ต้องขอโทษด้วยครับ ที่ผมมาวันนี้เพราะผมได้ยินเรื่องการได้มาซึ่งตำแหน่งประธานกรรมการอย่างไม่ถูกต้อง”
เมทินีไม่พอใจสวนทันที “ไม่ถูกต้องอะไร ก็ในเมื่อคุณช่อแพรมันเป็นบ้า ใครจะยอมให้คนบ้ามาบริหารงานจริงไหม แล้วพวกเราก็ทำตามกฎการเลือกประธานคนใหม่ทุกอย่าง แล้วมีอะไรตรงไหนไม่ถูกต้องเหรอ”
“ถ้าอย่างนั้นผมขออนุญาตใช้ทีวีแล้วกันนะครับ เพราะมีบางเรื่องที่ทุกท่านอาจจะยังไม่รู้”
จบคำไพโรจน์ก็ต่อมือถือกับทีวีแล้วโทร.วิดีโอคอลกับช่อแพร นพดลถึงกับหน้าตื่น
“นั่นแกจะทำอะไร ช่อแพรใช้แกมาเหรอ”
“ใจเย็นครับ ถ้าผมเป็นคุณผมจะตั้งใจฟังคุณช่อ เพราะมันเกี่ยวกับตำแหน่งประธานที่คุณกำลังจะเป็นด้วย”
บนจอทีวี ช่อแพรกวาดตามองทุกคนเอ่ยเสียงเรียบ
“สวัสดีทุกคน ฉันไม่อยากขัดจังหวะการประชุมของทุกคนหรอกนะ แต่คิดไปคิดมาแล้ว ฉันก็ไม่อยากให้ทุกคนเสียเวลา เพราะยังไงนพดลก็ไม่มีทางได้เป็นประธานของเขมวัฒน์อยู่ดี”
เหล่าคณะกรรมการมองหน้ากันเลิ่กลั่ก นพดลได้ยินก็หน้าตึง โวยวาย
“เอาสิ ดิ้นอีก ฉันอยากเห็นเธอดิ้นเฮือกสุดท้ายว่าจะทำได้แค่ไหน”
“พวกแกคงคิดว่าการไล่ฉันออกจากตำแหน่งประธานแล้วก็ฮุบทุกอย่างที่เป็นชื่อของฉันจะเป็นวิธีที่ฉลาดมาก แต่พวกแกคงไม่รู้หรอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่แกเห็น ที่เป็นอาณาจักรของเขมวัฒน์ ไม่ใช่ของฉันคนเดียว”
“อะไรนะ แกหมายความว่าไง”
ท่าทางเป็นเดือดเป็นร้อนของนพดลทำให้ช่อแพรสะใจ ประกาศกร้าว
“ก็หมายความว่าถึงแกจะยึดทุกอย่างที่เป็นของฉัน แกก็ได้ไปแค่ครึ่งเดียว ไม่สิ...แกไม่ได้อะไรเลย เพราะเขมวัฒน์จะต้องเป็นของคนที่นามสกุลเขมวัฒน์เท่านั้น”
นพดลกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ขณะที่เมทินียังไม่อยากเชื่อ แผดเสียง
“ไม่...ไม่จริงใช่มั้ย”
“คุณไพโรจน์เป็นทนายประจำตระกูล น่าจะ ให้คำตอบกับทุกคนได้ดีที่สุด”
“เป็นอย่างที่คุณช่อแพรพูดทุกอย่างครับ”
“เพราะฉะนั้นฉันถึงบอกไงว่าประชุมกันต่อไปก็ไม่มีประโยชน์”
ช่อแพรพูดจบก็ตัดสายทิ้ง ไพโรจน์หันไปยื่นนามบัตรให้นพดล
“ถ้าคุณนพดลสงสัยหรืออยากถามเรื่องอะไรโทร.หาผมได้นะครับ”
นพดลไม่รับนามบัตรแต่โถมตัวเข้าหาทนายไพโรจน์ด้วยความโมโหสุดขีด
“ไม่จริง...แกกับนังช่อหลอกพวกเราใช่มั้ย”
เหล่าคณะกรรมการรวมทั้งเมทินีช่วยกันดึงนพดล ไพโรจน์อธิบายอย่างใจเย็น
“ไม่ใช่ผมกับคุณช่อหรอกครับ ถ้าจะยกความดีความชอบทั้งหมดก็คงจะเป็นเจ้าสัวที่ทำพินัยกรรมไว้อย่างนั้น...ขอตัวก่อนนะครับ”










