ตอนที่ 13
“พี่อ้ายผิง พี่ต้องตื่นนะ อย่าปล่อยฉันไว้ตามลำพัง ฉันหมดแรงทั้งใจหมดแรงทั้งกายแล้ว
พี่ต้องรีบลุกมาช่วย ฉันยอมรับว่ากลัว...กลัวความโหดร้ายของพี่เจียอิง ฉันคงสู้เขาไม่ได้และอาจต้องดูบ้านตระกูลฟังของเราสูญสลายกับตา พี่ตื่นขึ้นมาเถอะ ตื่นเถอะนะ มาช่วยฉันด้วย”
เสียงร้องไห้ของซุนหลิงทำให้สุ้ยไถ่ปวดใจ อดใจไม่ไหวเดินไปจับบ่าปลอบใจ
“อย่าร้องไห้ เธอต้องเข้มแข็งนะ”
ซุนหลิงตาแดง ร้องไห้โฮเมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มคนเดียวที่เธอคิดถึงทุกครั้งที่มีปัญหา
“พี่ชายคนใหญ่ ฉันกลัว...กลัวไปหมดทุกอย่าง ฉันไม่รู้จะทำยังไงต่อไป พี่อ้ายผิงจะฟื้นขึ้นมาใช่ไหม พี่ชายคนใหญ่ต้องช่วยให้พี่อ้ายผิงฟื้นนะ”
สุ้ยไถ่ดึงเธอมากอดแน่น ปลอบโยนเสียงอ่อน
“ไม่ต้องกลัว ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยอ้ายผิงและปกป้องเธอ...ซุนหลิง”
สองหนุ่มสาวโอบกอดถ่ายทอดพลังงานให้กันและกัน ซุนหลิงอบอุ่นใจมาก ความโกรธที่เคยมีเลือนหายและไม่สงสัยเรื่องระหว่างเขากับอ้ายผิงอีก จะมีห่วงก็เรื่องเหลาไท่ซึ่งมีอาการเหมือนคนตรอมใจเพราะหาตัวส่งไห้ไม่พบ
“เหลาไท่เป็นอย่างไรบ้างคะ”
“ตอนฉันออกมาท่านนอนพัก ฉันสั่งให้อาฟานคอยดูแล แล้วเธอล่ะทำใจได้หรือยัง”
ซุนหลิงเหลือบมองอ้ายผิงพี่สาวคนละแม่บนเตียง “ฉันพยายามอยู่แต่ฉันจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว ฉันช็อกที่เห็นพี่อ้ายผิงเป็นแบบนี้และยิ่งช็อกมากที่รู้ความจริง ไม่นึกเลยว่าพี่เจียอิงจะกล้า”
“เราต่างก็คิดไม่ถึง แต่ฉันสงสัยมานาน รู้ว่า มันต้องมีอะไรบางอย่างเพราะคนหัวอ่อนอย่างอ้ายผิงจะกล้าขนาดนี้ได้ยังไงในชั่วข้ามคืน ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งเห็นความแตกต่าง”
คำพูดของสุ้ยไถ่พาซุนหลิงย้อนไปเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อนช่วงเขาทำตัวพัวพันกับอ้ายผิงตัวปลอมอย่างผิดสังเกต ซุนหลิงจำความรู้สึกตัวเองเวลานั้นได้ ทั้งน้อยใจและเสียใจที่เขาทรยศน้องชายฝาแฝดอย่างส่งไห้อย่างเลือดเย็น แต่วันนี้เธอได้รู้แล้วว่าทั้งหมดที่เขาทำก็เพื่อความถูกต้องและทวงความยุติธรรมให้อ้ายผิงตัวจริง
ซุนหลิงดึงตัวเองจากอดีต พึมพำ “เรื่องมันเป็นอย่างนี้เองเหรอ”
สุ้ยไถ่พยักหน้า “และในที่สุดฉันก็ต้องใช้วิธีสุดท้ายเพื่อเอาลายนิ้วมือเขาไปให้ตำรวจถึงได้รู้ว่าลายมือของอ้ายผิงที่เดินทางเข้าประเทศเป็นคนละคนกับอ้ายผิงตัวจริง”
ซุนหลิงพาตัวเองย้อนอดีตอีกครั้ง เธอจำได้ว่าคืนสุดท้ายก่อนเขาบินไปฮ่องกงเขามาค้างกับเจียอิงหรืออ้ายผิงตัวปลอมที่บ้านอันซิน ที่แท้ก็เพื่อขโมยลายนิ้วมือของเจียอิงไปตรวจสอบ
“คืนนั้นเอง...แล้วคุณก็ตามพี่เจียอิงไปฮ่องกง”










