สมาชิก

สารวัตรใหญ่

ตอนที่ 2

“ผู้ร้ายตัวจริงรูปร่างไม่ใช่แบบนี้ ผิวดำคล้ำกว่า ตาโปนกว่า ปืนและระเบิดของคนร้ายก็เป็นอาวุธสงคราม ไม่ใช่ปืนยิงนกแบบบ้านๆอย่างนี้”

ใหญ่พูดความจริงออกไปแต่ทำให้ตำรวจแทบทุกคนโกรธที่โดนฉีกหน้า จ้องเขาด้วยสายตาชิงชัง 

แล้วจู่ๆป้าคนหนึ่งที่โดนปล้นก็โพล่งขึ้น

“ฉันก็จำหน้ามันได้ค่ะ คนร้ายมันตบหน้าฉัน รับรองไม่ใช่ไอ้หนุ่มคนนี้หรอก”

“หนูก็เห็นหน้ามันชัดทั้งสองคนตอนโดนจับเป็นตัวประกัน ยังไงก็ไม่ใช่คนนี้หรอกค่ะ”

สองเสียงช่วยกันยืนยัน คนขับรถกับผู้โดยสารอื่นๆ เลยพากันเข้ามาจ้องหน้าคนร้ายก่อนจะส่งเสียงสนับสนุนเซ็งแซ่ว่าไม่ใช่แน่ๆ ทรัพย์อนันต์เห็นท่าไม่ดี รีบไกล่เกลี่ย

“เอาละๆ ขอความสงบหน่อยครับ เรื่องแบบนี้มันผิดพลาดกันได้ ไม่มีปัญหาอะไร จับได้ก็ปล่อยได้”

ส่วนอเนกก็แก้ต่าง ไม่อยากเสียหน้า “เดี๋ยว...ยังไงปืนที่ไอ้หนุ่มคนนี้พกมันก็เป็นปืนเถื่อน เอาตัวไปขัง

ไว้ก่อน ยังปล่อยไม่ได้”

วาริชปฏิบัติตาม ให้บุญเชิดเอาตัวคนร้ายไปขัง ผู้โดยสารซุบซิบกันใหญ่เพราะสงสารแพะที่ดวงไม่ดีต้องโดนขังในที่สุด

“แล้วเรื่องนี้ยังไงก็ต้องรีบสอบพยานเอาไว้ โดยเฉพาะคุณคนนี้ ดูท่าจะรู้มากกว่าคนอื่น เอาไปสอบก่อนเลย” อเนกพูดพลางมองชายแปลกหน้าที่เข้ามาทำให้เสียเรื่องด้วยสายตาไม่เป็นมิตร

 ooooooo

ครู่ต่อมาภายในห้องสอบสวน อเนกอยู่กับลูกน้องอีกคนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่พิมพ์คอมพิวเตอร์เพื่อบันทึกคำให้การกำลังเตรียมพร้อมรอการสอบพยาน

ใหญ่เดินเข้ามายืนนิ่งในห้อง อเนกเพ่งเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ พูดขึ้นในทำนองเย้ยหยัน

“นั่งสิ จะยืนอยู่ทำไม”

ใหญ่ลงนั่งอย่างสำรวมตามคำเชิญ แม้จะรู้ว่า

อีกฝ่ายไม่ค่อยชอบตน แต่ใหญ่ก็ทำให้ดีที่สุดในฐานะที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ยังไม่เปิดเผยตัว

“ดูคุณจะรู้เรื่องเกี่ยวกับคนร้ายดีนักนะ”

“ผมเป็นผู้โดยสารคนนึงที่ถูกชิงทรัพย์ครับ”

“แน่ใจเหรอว่าเหตุผลของคุณมีแค่นี้”

“ท่านคิดว่าผมจะมีเหตุผลที่มากกว่านี้เหรอครับ”

อเนกโกรธจัดตวาดสวน “ตอบคำถามผม ไม่ใช่ย้อนถาม”

ใหญ่ยิ้มน้อยๆในใจกำลังมองเห็นโทสะที่เกิดขึ้นของฝ่ายตรงข้ามด้วยอาการปลง อเนกเห็นรอยยิ้มนั้นก็ยิ่งบันดาลโทสะคิดว่าเขากำลังยิ้มเยาะตนถึงกับตะคอกใส่

“ชื่ออะไร มาจากไหน แล้วกำลังจะไปไหน”

“ผมชื่อใหญ่ นามสกุลเวโรจน์ มาจากกรุงเทพฯ จะมาที่พระลานนี่แหละครับ”


สารวัตรใหญ่

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด