ตอนที่ 2
“ว่ามาเลยน้อง จะถามอะไรจัดมาเลย” ทรัพย์อนันต์เปิดไฟเขียว ยิ้มแย้มกับนักข่าวอย่างเป็นมิตร
ooooooo
เมื่อกลุ่มของอเนกเดินเข้ามาถึงหน้าห้องสอบสวน กอบเกียรติกวักมือเรียกประณตมาหา จ่ากุลีกุจอมาทำความเคารพทั้งกลุ่ม
“ผู้การอยากรู้รายงานเบื้องต้นทางวิทยุเป็นฝีมือจ่าใช่ไหม”
ประณตนิ่งอึ้งลังเล อยากจะตอบว่าใช่เพื่อเอาหน้า แต่คิดอีกทีกลัวถ้านายชอบเดี๋ยวจะมอบงานเพิ่มให้อีก
งานหนักแต่เงินเดือนเท่าเดิมจึงตัดสินใจตอบไปตามจริง
“เปล่าครับ ไม่ใช่ฝีมือผม”
“งั้นใคร”
สิ้นคำถามของอเนก ใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี ประณตจึงชี้มือไป ทั้งกลุ่มมองชายแปลกหน้า
รู้สึกเหมือนเคยเห็นมาก่อนแต่จำไม่ได้ พลันเสียงโหวกเหวกโวยวายหน้าโรงพักก็ทำให้ทุกคนหยุดชะงักกันหมด
“จับได้แล้วครับ...จับได้แล้วครับ”
“เอ้า พวกเราดูหน้ามันไว้ ไอ้นี่แหละโจรปล้นรถเมื่อกี้”
จ่าเฉยกับจ่าบุญเชิดตะโกนลั่น นักข่าวกรูมาถ่ายรูปคนร้าย กลุ่มของอเนกให้ความสนใจตรงมาเหมือนกัน
อเนกจับหน้าคนร้ายให้เงยขึ้นสู้กล้องของนักข่าว “จะหลบกล้องทำไม ไหนๆจะเป็นโจรแล้วก็ต้องให้คนเขาจำหน้าได้หน่อย”
ทรัพย์อนันต์และขจรรีบเดินมายืนข้างอเนก
เพื่อป่าวประกาศผลงานให้เครดิต สภ.พระลาน และ
การดูแลงานของตำรวจระดับจังหวัด
“น้องๆสื่อครับ เรื่องนี้ต้องชื่นชมตำรวจ สภ.พระลานทุกคนครับ ที่เข้มแข็งในการปฏิบัติงานจนสามารถ
จับตัวคนร้ายได้อย่างทันท่วงที และอีกคนที่ต้องขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยก็คือท่านผู้การอเนก ที่มาช่วยให้คำแนะนำในการปฏิบัติงานจนสัมฤทธิผลในครั้งนี้” ทรัพย์อนันต์อวยหัวหน้า
อเนกยิ้มบางๆ แอ็กท่าข้างคนร้ายเพื่อให้สื่อมวลชนถ่ายรูป ทันใดนักข่าวสองสามคนตะโกนด้วยความโมโหคนร้ายและทำท่าจะเข้าไปกระทืบ กอบเกียรติต้องกันออกมา ขณะที่ใหญ่จับตามองแล้วส่งเสียงขึ้น
“คนนี้ไม่ใช่คนร้ายหรอกครับ พวกคุณจับมาผิดตัวแล้ว”
ทุกคนชะงักหันไปมองเจ้าของเสียงนั้น อเนกกำลังยิ้มให้สื่อมวลชนถ่ายรูป ไม่ค่อยพอใจที่หมอนี่มาขัดจังหวะ
“ลื้อรู้ได้ยังไงว่าจับผิดตัว”
“ใช่ จะจับผิดตัวได้ไง เห็นมั้ยว่าเสื้อผ้ามันตรง
กับที่วิทยุแจ้งมา แล้วนี่เห็นมั้ยในกระเป๋ามันมีอาวุธ”
จ่าบุญเชิดชูกระเป๋าและปืนให้ทุกคนดู










