ตอนที่ 2
หน้าสถานีตำรวจภูธรพระลาน มนัสกับปรีชาผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คนละฉบับมาพร้อมกับนักข่าวอื่นๆของสำนักข่าวท้องถิ่น ทั้งหมดกำลังแยกกันสัมภาษณ์ผู้โดยสารที่โดนปล้น ขณะที่ใหญ่นั่งรออยู่กับผู้โดยสารอีกจำนวนหนึ่งหน้าห้องสอบสวน
ประณตเดินเข้ามาหาใหญ่ด้วยท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าที่ควร “ที่คุณจดให้ผมเมื่อกี้ ขอบใจ แต่ผมอยากรู้ว่าคุณรู้ได้ไงว่าคนร้ายใช้ปืน 11 มม. แล้วก็ยังมีระเบิดเอ็ม 26”
“ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับอาวุธปืนของฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ แล้วอย่างปืนที่เอวจ่าน่ะผมยังรู้เลยว่ามันเป็นปืนอัตโนมัติยี่ห้อโคลต์ ใช้กระสุน 9 มม. เรียกว่าซุปเปอร์โคลต์ เป็นของหายากเพราะตลาดไม่นิยม”
ประณตอึ้งไปนิดกับความรอบรู้ของหนุ่มมาดเข้มคนนี้ “แล้วเรื่องคนร้ายทำไมบอกได้ละเอียด อยู่ใกล้กับมันหรือไง”
“ก็ใกล้พอๆกับคนอื่น เพราะมันเดินมาเก็บเงินจากผู้โดยสารทุกคน”
“แล้วคุณเป็นใครมาจากไหน”
“ผมมาจากกรุงเทพฯ มาธุระที่พระลาน ส่วนที่ถามว่าผมเป็นใคร เดี๋ยวผมก็ต้องให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ยังไงจ่ารอถามพนักงานสอบสวนดูอีกทีก็ได้ ขอตัวนะ ผมจะไปห้องน้ำ”
ใหญ่ลุกเดินไปห้องน้ำ ประณตไม่ค่อยชอบใจกับท่าทางของเขาที่ดูไม่ยำเกรงในความเป็นตำรวจของตน
อเนก ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเดินทางมาพร้อมรองทรัพย์อนันต์ วาริชกับกอบเกียรติรีบออกมาต้อนรับและตอบคำถามของผู้บังคับบัญชาเรื่องตามจับคนร้ายปล้นรถโดยสารว่ากำลังสกัดจับอยู่
“ใครเป็นคนให้รายละเอียด รายงานเบื้องต้นที่ส่งทางวิทยุ”
“จ่าประณตครับ” กอบเกียรติตอบ
อเนกเหยียดยิ้มทันที “ไอ้จ่าประณตเนี่ยนะ มันเก่งขนาดนี้เลยเหรอ”
“ปกติจ่าประณตแกไม่ค่อยเอาไหนเรื่องแบบนี้ แต่ครั้งนี้ไม่รู้ทำไมรายงานได้ชัดเจนฉะฉานมากเลยครับ”
“เดี๋ยวเรียกตัวมันมาถามหน่อย”
ทั้งหมดพากันเดินเข้าไปในโรงพัก นักข่าวเห็นก็รีบผละจากซักถามผู้เสียหายมาจ่อไมค์สัมภาษณ์อเนกทันที
“หวัดดีครับท่าน ขอสัมภาษณ์หน่อยได้ไหมครับ” มนัสเปิดฉาก
“คุณสัมภาษณ์รองทรัพย์แทนแล้วกัน ผมต้องเข้าไปดูรายละเอียดข้างใน”
วาริชกับกอบเกียรติรีบนำอเนกและตำรวจติดตามเข้าไปข้างใน ปล่อยให้ทรัพย์อนันต์ถูกนักข่าวรุมล้อมโดยมีขจรพลขับร่างบึกบึนยืนอยู่ด้วย










