ตอนที่ 10
รจิตวิ่งเข้ามา เจ้าหน้าที่วิ่งตามมาบอกกริชว่าเธอลักลอบเข้ามา รจิตยิ้มเรี่ยๆยืนยันรับรองจะไม่บอกใครเด็ดขาด แต่พอเห็นศพคนตายก็หน้าซีดพะอืดพะอม...กริชพารจิตมานั่งพักและชงกาแฟร้อนๆให้ดื่มแก้คลื่นไส้ รจิตยอมรับว่า
“เวลาเจอคนตายพร้อมๆกันแบบนี้ มันน่ากลัวกว่าที่คิดนะคะ”
“ความจริงคุณเป็นนักข่าว เห็นคนตายก็บ่อยน่าจะชินแล้วนะครับ”
“ไม่ชินหรอกค่ะ โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้ตายโดยธรรมชาติ”
กริชขอร้องให้ช่วยปิดข่าวนี้ไว้ก่อน เพราะถ้าเป็นข่าวออกไปจะเป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของทุกคน แต่รจิตกลับคิดว่า
“นักข่าวคือหมาเฝ้าบ้านนะคะ ถ้าไม่รายงานเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วเราจะเป็นหมาที่ซื่อสัตย์ได้ยังไง”
“ผมเข้าใจ แต่ผมอยากให้คุณชั่งน้ำหนักดูระหว่างผลดีกับผลเสีย ทุกอย่างแล้วแต่คุณ คำพูดของผมก็เป็นแค่การขอร้อง ไม่ได้บังคับ” กริชกดดันให้รจิตต้องตัดสินใจ...
กริชกลับมาประชุมทีมต่อ กำพลรับว่าตนผิดเองที่กินยาลดน้ำมูกทำให้หลับยาว เอื้อมก็รับผิดว่าตนตรวจตราหละหลวม ยินดีรับโทษ แคทรายงานว่ากล้องวงจรปิดไม่พบอะไรผิดสังเกต อดิศักดิ์แปลกใจที่ไม่มีการเข้าออกของคนนอก แสดงว่าเป็นคนใน
กริชครุ่นคิด หลังจากนั้นเขาปรึกษากับอุกฤษณ์ “พวกสิ่งเอ็งที่แฝงตัวอยู่ในหน่วยของเรา ต้องเป็นเจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่ง ผมเคยสั่งให้คุณตรวจสอบประวัติเจ้าหน้าที่ของเราทุกคน”
“ผมตรวจสอบแล้ว มีอยู่สองสามคนที่ประวัติค่อนข้างคลุมเครือ ตอนนี้กำลังไล่เช็กย้อนหลังกลับไปเพื่อความแน่ใจอยู่ หนึ่งในนั้นคือ...เอื้อม”
กำพลกับเอื้อมถูกสั่งพักงาน อดิศักดิ์ให้ทั้งสองถือเป็นการพักผ่อน แต่เอื้อมมีท่าทีเครียดจัดเพราะการพักงานทำให้ไม่ได้รับเงินเดือน เขาหงุดหงิดขอตัวกลับก่อน อุกฤษณ์เข้ามาบอกกำพลให้คอยจับตาดูเอื้อมไว้ด้วย แคทแปลกใจว่ามีอะไร
“สารวัตรสงสัยว่าคนของสิ่งเอ็งที่แฝงตัวอยู่ในหน่วยของเรา น่าจะเป็น...เอื้อม”
“ถึงว่า...เมื่อคืนท่าทางมันแปลกๆ” กำพลนึกได้เริ่มปักใจเชื่อ
กริชเดินออกจากห้องทำงานพบรจิตยังรออยู่ เธอชวนเขาออกไปหาที่นั่งคุยและรับปากจะยังไม่เสนอข่าวที่เขาขอให้ปิดไว้ก่อน...พอมาถึงร้านอาหาร รจิตถามถึงสร้อยจี้รูปนกที่เขาเอาไปตรวจสอบได้ผลอย่างไร กริชส่งสร้อยคืนให้และบอกว่า
“ตัวจี้มีส่วนผสมของวัสดุชิ้นหนึ่งที่มีคุณสมบัติเหนี่ยวนำคลื่นเสียงได้ดี”
“คลื่นเสียง!!”
“ถ้าจะให้เดา ผมคิดว่าสร้อยเส้นนี้จะเป็นตัวดึงสัญญาณคลื่นเสียงที่ใช้สะกดจิตเข้ามา แล้วคลื่นก็จะทำ ปฏิกิริยากับสมอง ทำให้คนที่ใส่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำ”
“ใช่ มันต้องเป็นแบบที่สารวัตรพูดแน่ๆ งั้นไปค่ะสารวัตร”
“ไปไหน”
“ฉันรู้แล้วว่าจี้แบบนี้ใครเป็นคนทำแจก” รจิตบอกแล้วเดินนำกริชออกมาที่จอดรถ พอกริชเห็นว่าเธอยังใช้ผ้าคลุมรถก็เซ็ง แถมต้องช่วยเปิดผ้าคลุมรถอย่างทุลักทุเล
ooooooo










