ตอนที่ 10
ดารณีถูกจับมาที่บาร์สุขสันต์ สิงห์ข่มขู่ให้เซ็นโอนทรัพย์สินทุกอย่างในเมืองไทยให้เขา แล้วจะปล่อยกลับไปใช้ชีวิตที่เมืองนอกตามเดิม เธอบอกเขาว่าตนไม่มีสิทธิ์ แต่พอรู้ว่าสามีถูกพวกเขาฆ่าตายแล้วก็ตกใจร้องไห้โฮ สิงห์เห็นว่าคงคุยกันไม่รู้เรื่องจึงขังเธอไว้ก่อน
กริชย้ายที่ทำการหน่วยเพื่อหลีกหนีสายที่แฝงตัว รจิตพยายามโทร.ถามแต่เขาไม่บอก เธอจึงคิดว่าจะต้องสืบหาให้จงได้
ปกรณ์ถูกจางซูเหลียงสั่งให้ตามเรื่องดารณี แต่สิงห์ตีรวนบอกว่าจะรายงานนายท่านเอง วองเข้าข้างสิงห์ จึงถูกปกรณ์ถากถาง
“ลูกน้องแกโดนจับ ตำรวจกำลังตามล่าแกอยู่ ลองคิดดูว่าแกเหลือทางเลือกอะไรบ้าง”
“มันไม่เกี่ยวอะไรกับเอ็ง ไอ้สอพลอ!” วองตวาดกร้าว
ปกรณ์สวนทันควันว่าเป็นกฎของสิ่งเอ็ง คนที่เป็นภัยต่อสมาคมจะต้องโดนกำจัดทิ้ง วองโกรธเกรี้ยวถลันเข้ากระชากคอปกรณ์ ปิงส่งชักปืนออกมาจ่อทำให้วองต้องปล่อย แต่ยังย้ำว่าจะคุยกับนายท่านเอง ไม่วายปกรณ์เยาะหยันหวังว่านายท่านจะเมตตา วองรู้สึกกดดัน
นึกถึงอดีตตอนอยู่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้า วองมักจะมีเรื่องกับเด็กข้างนอก วันหนึ่งได้ขโมยปืนปากกาจากพวกเด็กช่างไปยิงลูกตำรวจตาย แล้วหนีกลับมาซ่อนตัวที่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้า ตำรวจตามมาจับ จิงซูต้องช่วยหาที่หลบซ่อน ปกรณ์ไปฟ้องจางซูเหลียงทำให้เขาโกรธที่วองหาเรื่องเดือดร้อนเข้ามาอยู่เรื่อย
ชีพและสิงห์ออกหน้าช่วยด้วยการชกกันเองปากแตก แล้ววิ่งเข้ามาบอกตำรวจว่า คนร้ายเข้ามาทำร้ายพวกตนแล้วปีนหนีออกหลังบ้านโดยสร้างสถานการณ์ให้มีร่องรอยน่าเชื่อถือ จางซูเหลียงยืนยันกับตำรวจว่า ที่นี่เป็นโรงเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ได้รับเงินสนับสนุนจากสมาคมพ่อค้าจีน เด็กที่นี่ไม่ใช่เด็กเกเร คนร้ายคงเป็นเด็กที่อื่น ตำรวจจึงลากลับ
หลังจากนั้น จางซูเหลียงกล่าวชื่นชมชีพกับสิงห์ แต่สิงห์ยกความชอบให้กวงเพราะเป็นคนต้นคิด จางซูเหลียงประหลาดใจเรียกกวงมาสอบถาม
“เราต้องไม่ให้ตำรวจสงสัยพวกเรา ไม่งั้นทุกคนจะเดือดร้อน”
คำตอบของกวงทำให้จางซูเหลียงกระชากคอวองเข้ามาตวาด “เห็นไหม ไอ้กวงมันเป็นเด็ก แต่ความคิดมันเหนือกว่าเอ็งหลายขุม ต่อไปเอ็งไม่ต้องเสนอหน้ามารับใช้ข้าอีก”
ปกรณ์ถือโอกาสรับใช้จางซูเหลียงแล้วแอบยิ้มเย้ยวอง ทำให้เขาเคียดแค้นมาจนปัจจุบัน
วันต่อมาวองกับสิงห์เข้ามาพบจางซูเหลียง ปกรณ์รับใช้อยู่ข้างๆ วองขอโอกาสแก้ตัวที่จะเก็บกริชอีกครั้ง จางซูเหลียงเยาะว่าลูกน้องไม่เหลือจะทำอะไรได้ แต่ก็ยอมให้โอกาสอีกครั้ง วองกลับออกมาด้วยความรู้สึกกดดันเพราะรู้ว่าโอกาสที่ได้รับเป็นโอกาสสุดท้ายของชีวิต










