ตอนที่ 1
“เอามาเลยฟรีหนึ่งแท่ง”
“ผมก็อยากให้พี่นะครับ...แต่ว่ามันหมดพอดีครับ วันหลังผมแถมให้แล้วกัน”
สันต์ไม่ยอม เชิดปรามว่ากะแค่ไอติมแท่งเดียวทำโวยวายไม่อายเขาหรือ ถามภูผาว่าเท่าไหร่ ภูผาบอกว่าแท่งละสลึง 10 แท่งก็ 2 บาท 50 เชิดสั่งไอ้สันต์จ่ายไป สันต์รับคำเสียงอ่อย ควักเงินจ่ายโดยดี
ภูผามานั่งพัก หยิบถุงผ้าหูรูดสีแดงมอๆขนาดเท่าฝ่ามือมีปักลายปลาคู่ออกจากกระเป๋ากางเกง เอาเหรียญรวมใส่ถุง เหรียญหนึ่งหลุดกลิ้งหลุนๆไป ภูผายัดถุงแดงใส่กระเป๋ากางเกงแต่ลืมรูดปิดปากถุง ไล่ตะครุบเหรียญที่กลิ้งไปเอาเป็นเอาตาย
“เกือบซวยแล้วไหมล่ะ”
ภูผาโล่งอกเมื่อตะครุบเหรียญไว้ได้ที่ปากท่อระบายน้ำพอดี รีบดึงถุงผ้าออกจากกระเป๋ากางเกง แต่ถุงไม่ได้รูดปิดปากถุง เหรียญจึงร่วงกราวลงท่อระบายน้ำเกลี้ยง!
“โว้ยยย...ซวยจนได้!!” ภูผาสบถหัวเสีย แล้วก้มส่องดูในท่อ...
ภูผาเห็นน้ำครำดำปี๋ในท่อ...แต่ในซีรีส์ลูกผู้ชาย ภูผากำลังก้าวสู่อีกมิติคือ...
“ฝากรักที่ปลายรุ้ง”
ooooooo
สายวันนี้ที่ตลาดสด อาม่าสุ่ยเดินหาซื้อผัก หยิบตะกร้าผักที่เหลือเลือกขึ้นมาถามแช่มว่านี่เท่าไหร่ แช่มมองแว่บเดียวบอก “สองหลึงแล้วกัน”
อาม่าต่อเหลือสลึงเดียวเพราะเป็นของเหลือเลือกแล้ว อาม่ายื่นตังค์ให้สลึงเดียว แช่มหยวนๆ แต่บ่นตามประสาว่า คิดราคาเอาเอง ทีหลังก็ไม่ต้องถามว่าเท่าไหร่ จะให้เท่าไหร่ก็แล้วแต่เลย
อาม่าพอใจที่ได้ราคาที่ต่อรอง เดินไม่ต่อปากต่อคำ ไปที่แผงขายผลไม้ของลำไยถามว่า องุ่นนี่ขายยังไง
ลำไยบอกว่าขีดละหกสลึง อาม่าถามว่าแล้วที่มีตำหนิล่ะ ลำไยบอกว่าไม่มี มีแต่ที่สวยๆสดๆ ขายราคาเต็ม
อาม่าทำหน้ารังเกียจว่าผลไม้ฝรั่งอั๊วไม่ชอบ แล้วจะเดินไป พอดีภูผาเดินยิ้มร่าเข้ามาบอก
“ป้าลำไย เอาองุ่นพวงนึง”
อาม่ารีบบอกว่าอย่าเอา ขีดละตั้งหกหลึง ภูผาบอกว่าวันนี้อั๊วรวยมาขอกินซักพวงน่าม่า อาม่าบอกว่ารวยก็เก็บไว้ทำอย่างอื่น แล้วลากให้กลับบ้าน อาม่ามองสภาพมอมแมมของภูผาถามว่าไปทำอะไรมา
“ไปงมเหรียญในท่อมา แต่วันนี้อั๊วโชคดี ขายไอติมได้ตั้งสามกระติกแน่ะ”
“ดีแล้ว ขยันทำมาหากินต่อไปเอ็งเรียนจบแล้วค้าขายเก่งๆ ชีวิตเอ็งจะได้ไม่ลำบาก อย่านอนตื่นสาย”
“อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา” ภูผาพูดต่ออย่างจำแม่นเพราะอาม่าสอนทุกวัน
กลับร้านโชคดี ภูผากับอาม่าตกใจเมื่อเห็นเส็งกับเดือนกำลังเก็บร้านที่ถูกแก๊งอันธพาลทำลายป่นปี้
อาม่าถามว่าเกิดอะไรขึ้น เส็งพูดอย่างฝังใจว่า
“แค่เดือนมันเอ่ยชื่อไอ้ภูผา ความซวยก็เข้ามาเลย”










