ตอนที่ 5
“ผมรู้ เพราะตำแหน่งเมียของอินทร์ เวียงระมิงค์ ยังเป็นสิ่งที่คุณต้องการ ที่ผ่านมาผมพยายามประนีประนอม ให้เกียรติคุณตลอด แต่คุณกลับไม่ให้เกียรติผมเลย”
ปติมาถามว่าเมียที่ให้เกียรติผัวคือเมียที่ไม่มีปากเสียง ไม่มีสิทธิ์เอาคืนคนที่มาแย่งของรักไปอย่างนั้นหรือ “คนฉลาดอย่างคุณน่าจะรู้ คุณต้องรู้ว่าคุณจะอยู่กับผมยังไง”
อินทร์จะผละไปถูกปติมากระชากไหล่จนเกือบเสียหลัก เธอตะโกนถามว่าเขาอยากได้มันถึงขนาดนี้เลยหรือ อินทร์ฉุนขาดตอบ “เออ!” ถูกปติมาฟาดผัวะชี้หน้าด่า
“อย่าคิดนะว่าฉันจะยอม ฉันจะเป็นก้างขวางคอคุณอยู่อย่างนี้ไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ ให้สังคมรับรู้ว่านังกลินท์มันหน้าด้านจนตรอกเป็นได้แค่เมียน้อย”
“อย่าลองดีกับผม” อินทร์โกรธจัดชี้หน้าปรามแล้วเดินเข้าบ้านไปเลย ปติมาได้แต่มองอย่างแค้นใจ
ปติมาไปร้องไห้กับแพมที่คอนโด แพมถามเบื่อๆว่าแล้วเธอจะเอายังไง ปติมาบอกว่าให้มันคาราคาซังอยู่อย่างนี้แหละ แพมถามว่าเธอเองก็รู้ว่าตัวเองทำไม่ได้ แล้วทำไมเธอไม่เดินออกมา
“ถ้าเดินออกมาง่ายๆนังกลินท์มันก็ชนะฉันสิ” แพมว่ากลินท์อาจจะได้อินทร์ไปแต่ก็ต้องตกเป็นจำเลยสังคมว่าได้ผู้ชายที่แย่งเขามา “เธอแน่ใจเหรอว่าสังคมจะประณามมัน ในเมื่อทุกวันนี้คนยกย่องกันที่ชื่อเสียงเงินทอง พนันเลย คนคงอวยมันแบบหน้าด้านๆนั่นแหละ... เธอเคยบอกฉันใช่ไหม ศัตรูของฉันคือศัตรูของเธอ”
“ฮื่อ”
“วันนี้ฉันพร้อมจะประกาศสงครามกับนังกลินท์แล้ว และบอกก่อนเลยนะว่าคนอย่างฉันไม่มีวันจะแพ้ มีแต่มันจะพัง และมันต้องพังคนเดียว”
ปติมาประกาศกร้าว แพมได้แต่มองเพื่อนอย่างเหนื่อยแทน
ooooooo
กลินท์ว้าวุ่นใจกับเรื่องราวในอดีต คิดถึงความสัมพันธ์ของเจ้าน้อย เจ้าวงเดือนและเทียนคำอย่างสับสน เป็นกังวลว่าอุ่นเฮือนกับเทียนคำจะไปรำแก้บนได้ไหม ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง
กลินท์ถามตัวเองว่าถ้าไม่ฝันแล้วจะไปหาพวกเธอได้ยังไง พลันก็นึกถึงที่เบนบอกให้ลองนั่งสมาธิดู
“เอาวะ!”
กลินท์นั่งสมาธิแต่ใจร้อนรุ่มว้าวุ่นทำไม่ได้ รู้ว่าตัวเองกำลังสติแตก ไม่มีสมาธิจริงๆ คิดถึงประตูท่าแพที่ตนเคยทะลุมิติไป ถามตัวเองว่าหรือว่าเราต้องไปประตูท่าแพ? ไวเท่าความคิด กลินท์คว้ากระเป๋ามาจัดทันที พอดีเบนโทร.มา กลินท์บอกว่ากำลังจะไปเชียงใหม่ เบนขอไปด้วยทั้งที่ตัวเองก็ยังงงๆ
ฝ่ายอินทร์รู้จากดุษฎีว่ากลินท์ไปกับเบนก็คำราม
“คุณจะลืมผมง่ายขนาดนี้เลยเหรอลินท์ ไม่มีทาง ผมไม่ยอมหรอก” ว่าแล้วคว้ากุญแจรถออกไปเลย










