ตอนที่ 4
“ขอบคุณนะ ส่วนเรื่องกีตาร์ถ้าฉันมีเงิน ฉันจะคืนให้คุณ” ปานตะวันยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ปพลยืนยันว่าซื้อให้ ไม่ต้องจ่ายคืน เธอขอบคุณเขาอีกครั้ง รู้สึกดีๆกับเขามากขึ้น...
นันทิตาเห็นคลิปปานตะวันกับปพลที่ปนิตาเอาให้ดูก็โกรธมากกระแทกมือถือกับโต๊ะ ปนิตาเตือนท่านจะใจเย็นอีกไม่ได้แล้ว ดีไม่ดีเกิดพี่พลหลงกลมันเข้าจะเกิดอะไรขึ้น นันทิตาเตือนว่าจะใช้ไม้แข็งกับปพลไม่ได้ อีกอย่างถ้าไล่นังเด็กนั่นไปตอนนี้ แผนการที่ท่านจะใช้มันทำให้บริษัทของเขาล่มก็พังไปด้วย ปนิตาอดเป็นกังวลไม่ได้แล้วท่านจะปล่อยให้มันอ่อยพี่พลไปแบบนี้หรือ ท่านเชื่อว่าต่อให้มันอ่อยเขาอย่างไรก็เป็นได้แค่ของเล่น
“แม่ไม่มีวันยอมให้ผู้หญิงชั้นต่ำแบบนั้นมาเป็นเมียตาพลซ้ำรอยพ่อเขาหรอก”
“แล้วคุณแม่จะทำอย่างไรคะ”
“รอ...ไม่ใช่แม่ไม่โกรธ แต่ถ้าคิดจะทำการใหญ่ใจมันต้องนิ่ง คนอย่างตาพลยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ แม่ว่าตอนนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือการที่หนูนิจะต้องประกาศตัวให้สื่อได้รู้ว่าตาพลคือแฟนของหนู แล้วถ้าวันหนึ่งแม่นั่นมีข่าวกับตาพล มีเหรอที่นักข่าวจะไม่เล่นเรื่องมือที่สามแย่งผัวแย่งเมียกัน ชาวบ้านเขารับไม่ได้หรอก ถึงตอนนั้นมันก็ได้อายกันบ้างล่ะ หนูรู้ใช่ไหมว่าต้องทำอย่างไร” นันทิตายิ้มเจ้าเล่ห์ ขณะที่ปนิตารับคำไม่ค่อยเต็มปากนัก...
ใกล้จะต้องขึ้นแสดงแล้วยังไม่เห็นแม้เงาของปานตะวัน เดี่ยวถามตั้มวันนี้ไปรับเธอไม่ใช่หรือ แล้วทำไมไม่มาด้วยกัน เขาอ้างว่ามีเรื่องนิดหน่อย เดี่ยวพยายามซักว่าเรื่องอะไรเขาก็ไม่ยอมบอก
อีกมุมหนึ่งหน้าร้าน ปพลจอดรถให้ปานตะวันลงก่อน บอกว่าวันนี้ขอลงไปดูเธอแสดงด้วย เธอมองเหล่นี่เขาจะมาอารมณ์ไหน เขาเห็นสายตาของเธอก็ถามว่าเขาจะลงไปดูไม่ได้หรือ เธอไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ที่นี่เป็นผับ ใครอยากมาก็มาได้ไม่มีใครว่าอะไรแล้วหิ้วกีตาร์ที่ปพลเพิ่งซื้อให้เดินเข้าไปด้านใน...
เมื่อมาถึงเวทีเห็นตั้มกับเดี่ยวรอท่าอยู่แล้ว ปานตะวันขอโทษทั้งคู่ด้วยที่มาช้าไปหน่อย เดี่ยวเห็นกีตาร์ของเพื่อนก็ร้องเอะอะว่าตัวใหม่หรือคงแพงน่าดู ถูกหวยมาหรือถึงมีเงินซื้อ เธอรีบตัดบท
“ได้เวลาเล่นแล้ว เล่นเถอะ”...
เมื่อถึงเวลาแสดงปานตะวันร้องเพลงได้อย่างเข้าถึงอารมณ์ทำให้เพลงเพราะขึ้นอีก ปพลนั่งดูอยู่อีกมุมหนึ่ง เธอมองไปที่เขายิ้มให้อย่างรู้สึกดีด้วยแต่พยายามไม่คิดอะไร ตั้มมองตามสายตาเธอเห็นปพลจ้องมาที่เธอเขม็งไม่สบอารมณ์อย่างแรง แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำหน้าที่ตัวเองต่อไป
ooooooo
แสดงเสร็จ ปานตะวัน เดี่ยวและตั้มเก็บของจะกลับบ้าน ปพลเข้ามาแจ้งข่าวดีว่าเขาตัดสินใจจะให้ปานตะวันทำวงกับตั้มและเดี่ยวเหมือนเดิม ตั้มไม่วายยียวนทำไมเขาถึงเปลี่ยนใจ
“ฉันก็ดูๆเวลาที่พวกเธอเล่นด้วยกันบนเวที ก็ดูสนุกแล้วก็มีความสุขดี”
“เหรอครับ คนร้องดีๆเล่นเก่งๆกว่าปานกว่าพวกเรามีตั้งเยอะ ทำไมต้องเป็นปานเป็นพวกเราด้วย”
“ฉันยอมรับว่าคนที่เก่งกว่าปานตะวันมีเยอะ แต่ฉันเลือกคนที่ใช่สำหรับฉันมากกว่า และปานตะวันคือคนที่ใช่สำหรับฉัน ส่วนพวกนายก็คือคนที่ใช่สำหรับ
ปานตะวัน” ปพลพูดออกมาอย่างจริงจังและจริงใจ ปานตะวันรู้สึกดีที่เขาเห็นคุณค่าของเธออยู่บ้าง ส่วนตั้มกลับตีความหมายของคำว่าคนที่ใช่ไปอีกทาง










