ตอนที่ 11
ด้านหิน...อยู่ปลอบใจเปรียวจนดึกดื่น สองหนุ่มสาวถ่ายทอดความรู้สึกและความรักที่มีต่อกันและกันอย่างดูดดื่มกระทั่งฝนเริ่มตกหนักหินจึงขอตัวกลับ
“ฝนตก...แล้วจะไปยังไง”
“ฝนตกก็ช่างมันเถอะ ไม่ต้องห่วงหรอก เข้าบ้านปิดประตูลงกลอน ตรวจดูหน้าต่างทุกบาน...เก็บปืนไว้ใกล้ตัว”
เปรียวพยักหน้ารับ สีหน้าอิ่มเอิบอย่างมีความสุข หินเห็นแล้วอดยิ้มตามไม่ได้
“รู้ไหมเปรียว...เห็นเปรียวยิ้มแล้วใจผมมาเลย เราต้องยิ้ม เราต้องมีวันข้างหน้าที่เราจะได้อยู่ด้วยกันหลังจาก...”
“แล้วถ้าเราตายก่อนที่เราจะประกาศชัยชนะเหนือเสี่ยภุชงค์”
“เราจะได้ไปอยู่ที่นั่นด้วยกันไง...”
กว่าหมวดรำพึงจะรู้สึกตัวก็เช้าวันต่อมา เจ็บแค้นมากและหมายมั่นปั้นมือจะเอาคืนหินกับหาญให้ได้ ดนัย
ก็ไม่คิดยอมแพ้เรื่องเปรียวและที่ดินบ้านเธอ บุกไปหาถึงบ้านเช้าวันเดียวกัน
เปรียวเห็นหน้าดนัยแล้วของขึ้น คว้าปืนมายิงไล่ ดนัยไม่หนียืนยันขอคุยด้วย
“เปรียว...ผมมีข่าวเรื่องคดี”
“ฉันไม่ต้องการฟัง ถ้าอยากรู้ฉันจะไปโรงพักเอง ออกไป...ไม่ยังงั้นฉันยิงจริงๆนะ”
จบคำก็ยิงขู่หลายนัด ดนัยไม่มีทางเลือกขอตัวกลับ แต่คงไม่ทันระวังเลยทิ้งผ้าเช็ดหน้าเปื้อนรอยเลือดของแก้วไว้ น้ำหวานซึ่งอยู่เป็นเพื่อนเปรียวที่บ้านเห็นก็อดสงสัยไม่ได้ เปรียวก็เอะใจจะหยิบมาดู
น้ำหวานร้องลั่น “อย่าเปรียว...อย่าแตะต้องรอยนั่น ถ้าเราอยากรู้ว่ารอยเลือดที่ติดอยู่ในผ้าเช็ดหน้าของปลัดดนัยเป็นเลือดของใคร เรารู้ได้ด้วยผลของการตรวจทางวิทยาศาสตร์ นี่เป็นเรื่องใหม่...เรื่องที่มีคนรู้น้อยมาก”
“คุณน้ำหวานหมายถึงอะไร”
“เขาเรียกว่าการตรวจหา...ดีเอ็นเอ”
ooooooo
หิน หาญ ดิน ดำ สัปเหร่อฉุยและมัคนายกผวนช่วยกันหว่านล้อมพวกชาวบ้านโคกให้สู้เสี่ยภุชงค์เพื่อความปลอดภัยและสิทธิของตัวเอง คราแรก
พวกชาวบ้านก็ลังเลเพราะกลัวตายแต่พวกลูกศิษย์วัดก็ไม่ยอมแพ้กล่อมจนฮึกเหิมและมารวมตัวกันฝึกซ้อมการใช้อาวุธในที่สุด
เสี่ยภุชงค์ยังไม่สำเหนียกเรื่องชาวบ้านรวมตัวกับพวกหินกับหาญ ส่งสมุนป่วนทั่วหมู่บ้าน ใช้ศาลเตี้ยตัดสินจนพวกชาวบ้านเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ไม่เว้นแม้แต่สีดาซึ่งถูกเหล่าสมุนรีดไถเงินค่าหวยเถื่อนแทบไม่มีเหลือเก็บ
สีดาแค้นใจและเก็บกดมากที่ถูกเสี่ยภุชงค์เอาเปรียบจึงตัดสินใจเด็ดขาดจะหนีไปกับหิน เหล่เป็นห่วงเตือนให้คิดและระวังตัวดีๆแต่สีดาไม่เปลี่ยนใจ ประกาศกร้าว
“ฉันต้องหลุดจากวงจรอุบาทว์นี่อย่างคนรวย...เพราะฉันจะเอาเงินของเสี่ยภุชงค์ไปใช้ชีวิตใหม่กับคุณหิน!”










