ตอนที่ 4
เพราะทั้งพ่อทั้งย่าต้องอยู่โรงพยาบาลรินทร์จึงพาพิมไปอยู่กับตนที่บ้านเช่า แก้วตาถามว่าจะให้พิมมาอยู่ด้วยกี่วัน รินทร์บอกว่าจนกว่าย่าพุดจะออกจากห้องฉุกเฉิน ส่วนลุงสรถ้าปล่อยไปแบบนี้คงไม่ดีแน่ ปรารภ
“ฉันจะช่วยลุงสรยังไงดี”
“ตกลงว่าครอบครัวของพี่เพชรก็เหมือนครอบครัวของแกไปแล้วสิ” แก้วตาแซว รินทร์แก้เกี้ยวว่าตนช่วยเท่าที่จะช่วยได้ แก้วตาถามยิ้มล้อๆว่าแน่ใจนะ...รินทร์ไม่ตอบแต่ลุกเดินหนีไป แก้วตาพึมพำขำๆ “โดนจับได้ทีไรเดินหนีทุกทีเลย ยัยนี่” แล้วมองพิมที่หลับทั้งที่น้ำตายังเปื้อนแก้มแล้วยิ่งสงสาร...
ooooooo
ปริมไปหาเพชรที่อู่ โต้งบอกว่าพี่เพชรไม่อยู่ ปริมถามว่าแล้วจะกลับกี่โมงเดี๋ยวตนนั่งรอที่นี่ก็ได้ โก้บอกว่าพี่เพชรคงไม่เข้าเพราะไปเฝ้าย่าที่โรงพยาบาล
ปริมจึงจะไปเยี่ยมย่าพุดถามโก้ว่าย่าอยู่โรงพยาบาลไหนก็ถูกณรงค์เข้ามาไล่โก้ไปทำงาน บอกปริมว่าถ้าคุณปริมอยากไปตนขับรถไปส่งก็ได้ ตนเพิ่งเปลี่ยนรถใหม่รับรองนั่งสบาย เดี๋ยวตนไปส่งเอง
โต้งได้ยินก็พูดกับโก้อย่างหมั่นไส้ว่าอวดรวยไม่ดูเลยว่าคุณปริมเป็นลูกใคร ส่วนโก้สงสัยถามโต้งว่า
“แต่ว่า...พี่รงค์เอาเงินมาจากไหนมากมายวะ เอ็งรู้ไหม”
แม้ณรงค์จะคุยใหญ่คุยโตอวดรถใหม่ แต่ปริมไม่สนใจบอกว่าตนไปเองได้ไม่อยากรบกวน ณรงค์ก็ยุแหย่ว่าเพชรไม่ได้มีเธอคนเดียวนะ
“ปริมอาจจะดูโง่ในสายตาคุณนะคะ ที่เสียเวลาไปกับคนที่ไม่เห็นความหวังดีของเรา แต่ปริมยังหวังว่าวันหนึ่งเขาจะเห็น ถึงมันจะดูเป็นความหวังลมๆแล้งๆแต่ปริมจะไม่ยอมเลิกถ้าไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่ก่อน”
“งั้นหรือครับ” ณรงค์ยิ้มแหย ปริมยืนยันว่าตนเชื่ออย่างนั้น “ขอบคุณนะครับที่ทำให้ผมมีความหวังขึ้นมาเหมือนกัน...ผมจะรอวันที่คุณเห็นความหวังดีของผมนะครับ...คุณปริม”
ปริมเดินออกมายิ้มสมเพชที่ณรงค์ไม่รู้เลยว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสายตาของตนเลย
ปริมไปถึงโรงพยาบาลเห็นเพชรกับรินทร์ยืนคุยกันหน้าตาเคร่งเครียดอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน แก้วตานั่งจับมือพิมอย่างให้กำลังใจแต่มองไปที่ประตูห้องฉุกเฉินไม่วางตา
ปริมจิกตามองเดินเข้าไปหาเพชร พิมเห็นรีบเข้าไปจับแขนเพชรกันท่า ปริมปั้นหน้ายิ้มเข้าไปหาเพชรทำเป็นห่วงใยย่าพุดถามว่าจะเอาไปเข้าโรงพยาบาลเอกชนไหม










