ตอนที่ 1
“ตอนน้ายังเด็ก คนที่ทำให้น้ายังเป็นน้าทุกวันนี้คือแม่ของปัทม์ เราดูแลกันมาตลอด บางทีเราก็ทะเลาะกัน งอนกันไม่คุยกัน แต่เราก็ตัดกันไม่ขาด”
“ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมน้าพรถึงเลือกแม่มากกว่าแฟน ผมก็เหมือนกัน...แม่ผมต้องมาก่อน”
“ใครทำพี่ลินจงเจ็บ”
“มันก็ต้องเจ็บหนักกว่า”
สมพรบอกว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ ถามปัทม์ว่าแล้วจะทำมาหากินอะไรกัน ปัทม์บอกว่าแม่จะทำขนมขาย สมพรจึงเล่าว่าเมื่อก่อนลินจงเคยมีแฟนเป็นคนทำขนมขายแล้วลินจงก็เอาขนมมาขายที่บ้านป้าอบ ปัทม์ถามว่าแล้วแฟนแม่คนนั้นเขาไปไหนเสียล่ะ สมพรบอกว่ากลับไปมุดกระโปรงเมียมันที่บ้านนอกแล้ว
“แม่ผิดหวังเรื่องผู้ชายมาหลายครั้งจริงๆ”
“ปัทม์เป็นผู้ชายคนเดียวที่แม่หวังได้” สมพรพูดแล้ว ขอไปทำงานก่อน ปัทม์ไม่อยากให้น้าพรทำงานนี้อีก สมพรบอกว่าไม่ต้องมาหว่านล้อมเพราะตนทำอย่างอื่นไม่เป็น ปัทม์ถามว่าทำไมน้าไม่ปลูกสมุนไพรขาย
“ใครเขาจะมาซื้อกัน ของพวกนี้เขาปลูกกันในบ้านได้เองทั้งนั้น” สมพรตัดบทแล้วไปทำงานเลย
ooooooo
เมื่อครูอัญรู้ว่าลินจงกับปัทม์ถูกไล่ออกจากบ้านเช่าคาดว่าสองแม่ลูกคงลำบากมาก จึงปรึกษาพฤกษ์ว่าเราชวนปัทม์มาทำงานพิเศษที่ร้านดีไหม
“ดีค่ะ” หนูตุ่นตอบก่อนลุงเสียอีก พฤกษ์บอกว่าก็ดี ตนกลัวเหมือนกันว่าสภาพแวดล้อมที่ปัทม์อยู่จะพาเขาไปผิดทาง
ลินจงกับปัทม์มาอยู่บ้านสมพรก็เริ่มทำขนมขายกัน สองแม่ลูกเปิดตำราทำขนมช่วยกันทำเงอะงะ สมพรที่เพิ่งตื่นนอนลงมาดูแม่ลูกทำขนมก็พูดให้กำลังใจว่า “ต้องอร่อยแน่เลยพี่จง” สองแม่ลูกยิ้มรับกำลังใจ
ทำขนมเสร็จจัดเรียงใส่ตะกร้ากระเดียดไปขายที่ตลาดเช้ากลางแจ้งด้วยความหวังว่าจะขายได้ แต่พอไปขายจริงๆกลับมีแต่คนที่เดินผ่านไปมาไม่มีใครแวะซื้อเลย
“แม่ว่าตลาดนี้อาจไม่ใช่ที่ทางของเราเสียละมั้ง” ลินจงพูดเบาๆกับปัทม์ที่ร้องขายขนมอย่างอดทน
ไม่นานลินจงก็ถูกแม่ค้าที่เดินผ่านและจงใจเดินมาด่าว่าเป็นผู้หญิงแพร่งสรรพศาสตร์ที่ผัวตนต่างเคยไปใช้บริการกันหมดทุกคน ไล่ให้ไปขายที่อื่นอย่ามาขายที่นี่เพราะอาจถูกเมียของผู้ชายในตลาดฉีกอกเธอแน่
ปัทม์ทนเห็นแม่โดนด่าและไล่ไม่ได้ บอกแม่ว่า “ไปขายที่อื่นกันเถอะแม่”
พอกลางวันย้ายไปขายในตลาดที่มีหลังคา ก็เจอพ่อค้าหมูที่เคยไปใช้บริการ พอลินจงยิ้มให้พ่อค้าหมูก็หัวหดบอกว่าทีหลังอย่าทำกับคนอื่นอย่างนี้ เพราะพวกเมียๆมันมีสัมผัสพิเศษ
ลินจงถูกบรรดาแม่ค้าด่าทอต่อต้านและไล่ให้ ไปขายที่อื่นอีก จนปัทม์ท้อชวนแม่กลับบ้านไปก่อนเถอะ
ขณะปัทม์กับลินจงเดินออกจากตลาดก็ยังถูกสายตาของพวกแม่ค้ามองอย่างเหยียดหยาม ปัทม์ถามว่าทำไมต้องเกลียดชังขนาดนี้ ถ้าแม่ตนเลือกเกิดได้คงเกิดเป็นเศรษฐีไปแล้ว
เมียพ่อค้าขายหมูที่ออกหน้ากว่าเพื่อนโต้ว่าตนไม่ได้รังเกียจอาชีพกะหรี่ แต่ตนมีปัญหากับกะหรี่ที่มายุ่งกับผัวตน ไม่มีเมียคนไหนที่จะอดทนใช้ผัวคนเดียวกับผู้หญิงอื่นได้หรอก
ปัทม์ขอโทษแทนแม่ บอกว่าแม่เลิกอาชีพนี้แล้ว แม่ค้าผักกับเมียพ่อค้าหมูไม่เชื่อเพราะอาชีพนี้เป็นแล้วมันเลิกไม่ได้
“ผมว่าเป็นกะหรี่ยังเลิกง่ายกว่าเลิกมองคนด้วยอคติ” ปัทม์ย้อนแล้วเดินออกจากตลาดท่ามกลางเสียงด่าของบรรดาแม่ค้า คนหนึ่งด่าและปรามส่งท้ายว่า
“อย่าให้เห็นว่าพวกมึงมาที่นี่อีกนะ”
ooooooo










