ตอนที่ 13
“ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน” เขาพยายามโทร.หาพ่ออีกแต่โทร.ไม่ติด...ที่พันธกานต์โทร.ไม่ติดเพราะแสนคมกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับก้องภพเสนอจะให้เงินหนึ่งล้านบาท โดยมีข้อแม้เขาจะต้องไม่กลับมาวุ่นวายที่คมน์พิมุกต์อีก
ก้องภพรับข้อเสนอแต่แสนคมต้องเอาเงินสดๆมามอบให้ด้วยตัวเอง ไม่ยอมให้โอนผ่านธนาคารทั้งที่ทีแรกตั้งใจจะให้ทำแบบนั้น เนื่องจากมีคนแนะนำว่าการโอนผ่านธนาคารอาจใช้เป็นหลักฐานกลับมาเล่นงานเอาได้ แล้วนัดให้แสนคมไปเจอกันที่เดิม...
ช่อม่วงเองก็พยายามโทร.หาแสนคมตามที่พันธกานต์ร้องขอแต่ก็ติดต่อไม่ได้เช่นกัน
ooooooo
ในเวลาต่อมา แสนคมขับรถมาจอดใกล้กับจุดที่นัดก้องภพไว้ หยิบมือถือขึ้นมาดูเห็นสายมิสคอลจากทั้งช่อม่วงกับพันธกานต์หลายสิบสาย แทนที่จะโทร.กลับเขากดล้างหน้าจอแล้ววางมันลง หันไปคว้ากระเป๋าใส่เงินเดินมายังจุดนัดพบ เห็นก้องภพนั่งอยู่ที่ม้านั่งริมน้ำ ร้องบอกว่ามาแล้ว แต่เขานั่งเฉยไม่หันมอง
“ไม่ดีใจเหรอที่อยู่ๆก็ได้เงินล้าน”
เงียบอีก ก้องภพนั่งนิ่งไม่หือไม่อือ แสนคมจึงเดินอ้อมไปด้านหน้าต้องตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นคู่นัดกลายเป็นศพถูกปาดคอเกือบขาด ยังไม่ทันจะทำอะไร มีเสียงตำรวจตะโกนบอกให้เขายกมือขึ้น แสนคมรู้ทันทีว่าตัวเองถูกจัดฉากให้กลายเป็นฆาตกร...
พันธกานต์เอาจดหมายข่มขู่ที่ค้นมาได้จากห้องทำงานพ่อให้ช่อม่วงดู พร้อมกับถามว่าพอจะรู้บ้างไหมใครเป็นคนส่งมา เธอส่ายหน้าไม่รู้จริงๆ
“เดี๋ยวนะคะ คุณพันบอกว่าได้ยินที่ผู้ชายคนนั้นพูดถึงคุณแพรทองด้วย อย่างนั้นเหรอคะ”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับคำ ระหว่างนั้นทองเอกเข้ามาแจ้งว่าโทร.ไปหาเพื่อนๆของแสนคมแล้วไม่มีสักคนที่ได้รับการติดต่อจากแสนคม ช่อม่วงถึงกับเข่าอ่อนทรงตัวแทบไม่อยู่ พระพายต้องเข้าไปช่วยพยุงพาไปนั่ง จังหวะนั้นตำรวจโทร.มาที่มือถือของพันธกานต์ แจ้งว่าแสนคมถูกจับให้รีบมาที่โรงพัก ทุกคนงงมากอยู่ๆเขาไปถูกตำรวจจับได้อย่างไร ได้ความว่าคนที่ขู่ท่านตายแล้ว ตำรวจพบท่านอยู่กับศพชายคนนั้น...
ไม่นานนักพันธกานต์ พระพายกับทองเอกและช่อม่วงไปที่โรงพักแห่งนั้น โดยมีทนายประจำตระกูลเป็นธุระจัดการประกันตัวแสนคมออกมา...










