ตอนที่ 13
ช่อม่วงนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามา สงสัยว่าเป็นใครลุกขึ้นจะไปดู แต่รู้สึกมึนๆขึ้นมาจึงต้องหยุดยืนอยู่กับที่ เป็นจังหวะเดียวกับพันธกานต์เดินเข้ามาพร้อมกับพระพาย ท่านร้องทักว่ากินอะไรกันมาหรือยัง เขากินมาเรียบร้อยแล้ว
“ทำไมเหรอครับ หรือว่าอยากให้ผมชวนคุณช่อมากินกุ้งเผาด้วยกัน”
พระพายตกใจที่พันธกานต์พูดแบบนั้น ผิดกับช่อม่วงที่กลับยิ้มให้ ยิ่งท่านได้ยินเขาพูดอย่างนี้ยิ่งมั่นใจว่าเขาไม่ได้เป็นคนเอากุ้งใส่ในไข่ตุ๋นวันนั้นแน่นอน
พันธกานต์สงสัยช่อม่วงแน่ใจได้อย่างไร เขาอาจจะเป็นคนร้าย ที่ทุกคนสงสัยอยู่ก็ได้ ช่อม่วงยังไม่ทันจะตอบคำถามเกิดหน้ามืดจะเป็นลม พันธกานต์เข้ามาประคองไว้ โดยมีพระพายตามมาช่วยอีกแรงหนึ่ง ช่อม่วงยิ้มให้เขาอีกครั้ง
“ถ้าคุณพันต้องการทำร้ายอาจริงๆ คงปล่อยให้อาล้มลงไปแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ”
ชายหนุ่มแอบเขินที่ถูกชม ค่อยๆถอยห่างออกมา พระพายเห็นเขาเขินก็นึกสนุก แกล้งกระเซ้าที่อาช่อไม่เชื่อว่าเขาเป็นคนทำเพราะเขาเป็นคนชอบทำเรื่องชั่วๆแบบเปิดเผยต่างหาก ช่อม่วงเอ็ดหลานสาวว่าตนไม่ได้หมายความอย่างนั้นสักหน่อย พระพายยิ้มขำ
“คืออาช่อเขาหมายถึง ปกตินายน่ะเป็นคนเปิดเผย ถ้าเกลียดใครก็จะแสดงออกตรงๆมาเลยไงล่ะ เพราะฉะนั้นเรื่องคิดจะทำร้ายกันลับหลังแบบนี้ มันไม่ใช่นิสัยนายไง”
พันธกานต์เห็นทั้งคู่มองหน้าตนเองก็ทำตัวไม่ถูก เดินหนีออกไปเลย ช่อม่วงตำหนิพระพายไม่ควรไปพูดอย่างนั้นกับเขา เธอว่าไม่ต้องเป็นห่วงเขาไม่ถือสาอะไรเธอแล้ว ช่อม่วงมองเธออย่างสงสัย พระพายเห็นสายตาของอาตัวเองก็รู้ว่าเผลอพูดมากไปรีบเปลี่ยนเรื่องถามท่านว่าวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นไหม
“ยังมีอ่อนเพลียอยู่บ้างแต่ไม่เป็นไรแล้วล่ะ...
เก่งนะเรา ที่พาคุณพันกลับมาได้” คำชมของช่อม่วงทำเอาพระพายยิ้มแก้มแทบปริ ด้านพันธกานต์เดินยิ้มเข้ามาในห้องตัวเอง รู้สึกอบอุ่นใจที่ได้กลับบ้านอีกครั้ง แล้วนึกบางอย่างขึ้นมาได้เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดลิ้นชักตู้ออก เห็นกระดาษที่เขียนคำอธิษฐานยังวางอยู่ที่เดิม นึกถึงคนที่ตัวเองเขียนชื่อใส่ไว้ในกระดาษอธิษฐานก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข...
ตกค่ำพันธกานต์เดินมาเคาะประตูห้องพระพาย เงียบไม่มีเสียงขานตอบ เขาลองเปิดประตูดูปรากฏว่าไม่ได้ล็อก เดินเข้ามาที่เตียงเห็นเจ้าของห้องหลับไม่รู้เรื่อง เขย่าตัวให้ตื่นเธอก็นอนนิ่งไม่ขยับ เขาทรุดตัวลงนั่งบนเตียงลองเอามืออังหน้าผากถึงได้รู้ว่าเธอเป็นไข้ตัวร้อนจี๋ เขย่าตัวอีกครั้งคราวนี้เธอรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมอง
“นี่เธอกินยาหรือยัง” พันธกานต์เห็นเธอส่ายหน้าก็ร้องเอะอะ ป่วยขนาดนี้ไม่กินยาได้อย่างไร ไม่อย่างนั้นเขาจะพาไปหาหมอ พระพายส่ายหน้าอีก ไม่ชอบกินยาขอนอนพักสักครู่ก็หายแล้ว เขาไม่ยอมให้นอนจับเธอลุกขึ้นจะให้กินยาแก้ไข้ให้ได้ เธอโวยวายก็บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าไม่ชอบกินยา ยังจะมาก่อกวนอยู่ได้ แล้วแบบนี้จะข่มตาหลับได้อย่างไร เขาเป็นห่วงเธอคิดหาทางจะให้เธอได้พักผ่อน นึกถึงตัวเองตอนเด็กๆขึ้นมาได้










