ตอนที่ 13
ช่อม่วงเป็นกังวลเกี่ยวกับนพดลจึงเรียกทองเอกมากำชับก่อนที่จะไปทำงานว่าให้ช่วยดูๆแสนคมแทนท่านด้วย เขารู้ทันว่าแม่ห่วงการเข้ามาของนพดลใช่ไหม ช่อม่วงพยักหน้า
“แม่ว่าทุกอย่างมันดูลงตัว ทุกอย่างเหมือนถูกจัดวางมากเกินไปนะ”
“หมายความว่าไงครับ แม่คิดว่าที่แม่กับคุณพันเป็นอย่างนี้ เป็นฝีมือของอานพเหรอครับ”
“เอาเป็นว่าอานพเขาเก่งเรื่องทำหนังสือ ส่วนเราเก่งเรื่องโฆษณา ยังไงเราก็ต้องช่วยอาเขาดูอยู่ดี”
ทองเอกจับมือแม่ไว้รับปากจะดูแลแสนคมให้แม่ไม่ต้องห่วง จังหวะนั้นกุ๊กไก่โทร.มาตามทองเอกให้รีบไปที่บริษัท นพดลเรียกประชุมด่วน ช่อม่วงไม่ค่อยไว้ใจ ถ้ามีเรื่องอะไรให้เขาโทร.แจ้งด้วย ทองเอกรับปากหากมีอะไรจะรีบโทร.บอก แต่ตอนนี้ขอให้แม่พักผ่อนให้มากๆอย่าเพิ่งเป็นกังวลไป...
ปรากฏว่าการประชุมที่นพดลเรียกทองเอกมาร่วม คือการเสนอให้เปลี่ยนรูปแบบโฆษณาจากที่ใช้จอทีวีแอลอีดีติดตามสี่แยกไปเป็นบัลลูนลอยฟ้าที่มีจอแอลอีดี ติดอยู่แทน อ้างว่าระยะยาวประหยัดกว่า ค่าบำรุงรักษาก็ถูกกว่าแถมยังใช้พื้นที่น้อยกว่าอีกด้วย แต่ต้องลงทุนครั้งแรก 150 ล้านบาทสำหรับบัลลูนสองร้อยลูก ทองเอกไม่เห็นด้วย หากจะต้องลงทุนขนาดนี้ควรจะถามความเห็นจากแม่ของเขากับพันธกานต์ก่อน
ขณะที่สองพ่อลูกนพดลกับนภชลพยายามกล่อมให้แสนคมเห็นด้วยกับการลงทุนครั้งนี้ พันธกานต์เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน แสนคมเห็นลูกชายกลับมาก็ดีใจ ขอให้นพดลพักเรื่องบัลลูนไว้ก่อน ทองเอกเห็นดีด้วย เราจะได้มีเวลาคิดทบทวนทุกอย่างให้รอบคอบกว่านี้ นภชลกับนพดลถึงกับพูดไม่ออก
“ผมว่าคุณอาน่าจะมีเรื่องอยากคุยกับคุณพันกันตามลำพัง ยังไงผมต้องขอตัวก่อนนะครับ” ทองเอกว่าแล้วเก็บข้าวของจะออกจากห้องประชุม นพดลพยายามจะยื้อให้ประชุมต่อ แต่พันธกานต์ชิงตัดบท
“ผมขอคุยกับคุณพ่อตามลำพังได้ไหมครับ”
โดนไล่ทางอ้อมนพดลจึงต้องชวนนภชลกลับ ทองเอกไม่รอช้าเดินนำสองพ่อลูกออกไป ทันทีที่ประตูห้องปิด แสนคมออกตัวว่าที่ต้องเอานพดลมาทำงานที่นี่เพราะไม่มีคนช่วยงาน พันธกานต์ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น แค่อยากรู้ว่าทำไมพ่อถึงให้พระพายไปตามกลับมา
“แกรู้ไหมว่าหนูพายพยายามบอกฉันแค่ไหนว่าแกไม่ได้เป็นคนใส่กุ้งในอาหารให้คุณช่อกิน แต่ไม่ว่าฉันจะพูดอย่างไร หนูพายก็ยังยืนกรานว่าแกไม่ได้เป็นคนทำ ฉันเลยมาคิดดูว่าในเมื่อคนอื่นยังเชื่อในตัวแกขนาดนี้ ฉันเองเป็นพ่อแก ทำไมฉันถึงไม่เชื่อในตัวแก...พัน พ่อขอโทษ”
พันธกานต์ไม่พูดอะไรหันหลังจะไป แสนคมร้องเรียกไว้ เขาหันกลับมามองพ่อ
“ถ้าพ่ออยากให้ทำอะไรก็บอกแล้วกัน ผมอยู่ที่ห้อง” พันธกานต์พูดจบเดินออกไป แสนคมมองตามดีใจ
ooooooo
แสนคมกลับเข้าห้องทำงานตัวเองด้วยอารมณ์เบิกบานที่ปรับความเข้าใจกับลูกได้ แต่ต้องชะงักเมื่อเจอนพดลนั่งรอท่าอยู่ เขารีบออกตัวว่าคงไม่ได้โกรธที่พันธกานต์พูดใช่ไหม นพดลยิ้มให้ จะโกรธทำไม ตนรู้ว่าหลานชายเป็นคนนิสัยอย่างไร แล้วเลียบๆเคียงๆถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง










