ตอนที่ 5
พระยากำแหงตกใจท้วงติงว่า ท่านไม่กลัวว่าหัวเมืองพวกนี้จะโกรธเคืองที่อโยธยาทอดทิ้งหรือ
ขุนแผลงฤทธิ์สวนทันทีว่า โกรธก็โกรธไปเมืองขึ้นพวกนี้ก็เหมือนบ่าวรองมือรองตีนนาย แต่ละปีมีหน้าที่ส่งบรรณาการเท่านั้น เรื่องอื่นอย่าไปสนใจเลย
“พูดเช่นนี้มันเอาแต่ได้แล้วท่านขุน บรรณาการก็อยากได้ แต่พอเกิดเรื่องกลับทอดทิ้ง แล้วต่อไปใครจะยอมสวามิภักดิ์” พระยากำแหงโมโหมาก
พระยาพลเทพปรามพระยากำแหงให้ใจเย็นๆ ขุนแผลงฤทธิ์เจรจาโดยซื่อ อย่าถือโทษโกรธเคืองเลย แล้วหันไปพูดกับทุกคนว่า
“เอาเป็นว่าฉันขอเสนอให้ใช้แผนเดิมในการรับศึกอังวะ ทุกคนเห็นเป็นอย่างไร”
ขุนนางสอพลอเห็นด้วย ขันทองจะท้วงติงถูกแน่นกระตุกชายเสื้อไม่ให้พูด พระยาพลเทพจึงรวบรัดว่า
“ออกพระศรีคงไม่เห็นด้วย ฉันเข้าใจ แต่อันที่จริงเรื่องการศึกก็ไม่เกี่ยวกับขันทีอย่างคุณพระเลย ที่ฉันให้เข้าประชุมด้วยก็เพื่อจะได้เตรียมสะสมเสบียงแลควบคุมฝ่ายในให้มีความเรียบร้อยเพลามีศึกเท่านั้น ฉะนั้นคุณพระอย่าได้ออกความเห็นให้เป็นที่หัวร่อเลย”
พระยาพลเทพทำเสียงขำๆในคอ พรรคพวกคนอื่นพากันหัวเราะขบขัน พระยากำแหงไม่พอใจกับการเหยียดหยามนี้มาก แต่ขันทองกับแน่นกลับนิ่งไม่หวั่นไหวกับคำพูดและท่าทีเยาะหยันนั้นเลย
ออกจากศาลาลูกขุน ขันทองเดินคุยกับแน่นด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า การวางแผนรับศึกของเจ้าคุณพลเทพเช่นนี้ หากไม่ใช่จงใจให้อโยธยาเสียเปรียบ ก็ต้องถือเป็นเวรกรรมของบ้านเมืองโดยแท้ที่ได้คนเช่นนี้มีอำนาจในกลาโหม แน่นเตือนว่า
“ข้ารู้ว่าเอ็งห่วงบ้านเมือง แต่ที่อ้ายเจ้าคุณพลเทพพูดมันก็ถูก เอ็งเป็นขันทีมาจากเมืองโต้ระกี่ ควรรึที่จะมีความรู้ด้านพิชัยสงครามกับเขา แสดงปัญญามากเท่าใดเอ็งจะยิ่งเดือดร้อนนาโว้ย”
ขันทองคิดตาม ถอนใจหนัก ขอบน้ำใจแน่นที่เตือนสติและว่าต่อไปตนจะระวังให้มากกว่านี้
“เออ...แล้วเอ็งคิดว่าจะเป็นอย่างไรต่อ ถ้าอังวะมันยึดเชียงใหม่กับทวายคืนได้แล้วจะกลับหรือไม่”
“ก็หวังให้เป็นเช่นนั้น แต่ข้าเกรงว่าอังวะจะย่ามใจ ด้วยเห็นว่าเราอ่อนแอ ยอมปล่อยให้ยึดหัวเมืองประเทศราชได้ง่ายๆ จากที่ไม่คิดโจมตี ก็จะกลายเป็น...”
แน่นเหลือบเห็นเป้าถือขันสำหรับใส่ดอกไม้เดินไปทางสวนก็ตัดบทว่าตนมีงานต้องไปทำแล้วลิ่วไปเลย
ooooooo
ที่แท้แน่นเผลอใจลิ่วไปหาเป้าทักทายกรุ้มกริ่มและเก็บดอกไม้ให้ จนเป้าแปลกใจว่าไม่เคยเห็นขันทีคนใดหยอกล้อกับนางข้าหลวงแบบนี้มาก่อน เผลอหัวเราะออกมาบอกว่าเกรงคุณท้าวมาเห็นจะหยิกเอาเนื้อเขียว
แน่นบอกว่าอย่ากลัวเลยตนไม่ใช่ชายแท้ คุณท้าวจะดุไม่ได้ดอก พูดจนเป้าหายกังวลคุยด้วยอย่างสนิทใจ แน่นเลยช่วยเก็บดอกไม้ให้อย่างมีความสุข
ฝ่ายแมงเม่าร้อนใจเมื่อได้ข่าวอังวะจะยกทัพมาอีก ออกจากห้องมาถามขันทองที่กำลังนั่งคุยกับอินที่โถงบ้าน ขันทองแกล้งไม่ตอบ แมงเม่าคะยั้นคะยอถามก็ยิ่งแกล้ง หยิบพานใส่ผ้าพับที่วางอยู่ยกขึ้นบอกว่า
“กรมขุนวิมลท่านทรงได้ผ้าสวยมาจึงให้ฉันเอามาให้เจ้า”










