ตอนที่ 5
เนเมียวสีหบดีได้ฟังก็ก้มกราบดีใจมาก พระเจ้ามังระสั่งด้วยสีหน้าแววตาเด็ดเดี่ยวน่าเกรงขามว่า
“เจ้าทั้งสองจงไปเตรียมตัวให้พร้อม เกณฑ์ทหารได้ครบเมื่อใดก็จงไปสำแดงอำนาจของอังวะให้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วทุกทิศเถิด”
ผ่านมา 10 กว่าวัน การณ์จึงปรากฏว่า...
“พระเจ้ามังระทรงมีรับสั่งให้เกณฑ์ทหารจากหัวเมืองฉานไปทำการรบโดยไม่ทรงทราบว่าหัวเมืองฉานได้แอบส่งเครื่องบรรณาการถวายแด่ “จักรพรรดิ
เฉียนหลง” แห่งราชวงศ์ชิงของจีน เป็นเหตุให้อังวะและจีนผิดใจกันจนเกิดสงครามในเวลาต่อมา ซึ่งสงครามครั้งนี้ได้ส่งผลสำคัญต่อกรุงศรีอยุธยาอีกด้วย”
ooooooo
ผ่านมา 10 กว่าวันเช่นกัน ที่ทางเดินในวัง พระยากำแหงเดินหน้าเครียดมาเพราะต้องเข้าประชุมด่วน
“ท่านเจ้าคุณเจ้าคะ” เสียงขันทองเรียกจาก
ข้างหลัง พอพระยากำแหงหันมอง ขันทองเดินหน้าเครียด
เข้ามาถามว่าที่มีการเรียกประชุม เพราะข่าวที่ว่าอังวะยกทัพมาใช่หรือไม่ พระยากำแหงพยักหน้า บอกว่า
“พวกเราต้องช่วยกันคิดว่าจะเอาอย่างไร หากต้องตั้งรับอยู่แต่ในพระนครเหมือนคราก่อน ฝ่ายในของเราจะได้เริ่มสะสมเสบียงอาหารกัน”
ขันทองบอกว่าตนคิดว่าอังวะยกทัพมาครานี้คงไม่คิดจะยึดอโยธยาเหมือนทุกครา หากแต่จะเอาทวายแลเชียงใหม่กลับไปเท่านั้น พระยากำแหงถามว่าเหตุใดจึงคิดเช่นนั้น
“เพราะมันผิดปกติเจ้าค่ะ หากพระเจ้ามังระทรงคิดจะยึดอโยธยาเป็นเมืองขึ้นเมืองออกจริง ย่อมต้องทรงยกทัพมาด้วยพระองค์เอง เพื่อให้พระเกียรติยศปรากฏไปในแผ่นดิน ดังเช่นพระเจ้าอลองพญาแลบูรพกษัตริย์พระองค์อื่น แต่นี่กลับให้แม่ทัพมังมหานรธากับเนเมียวสีหบดียกมาเท่านั้น ดีฉันจึงมั่นใจว่ามิได้คิดยึดอโยธยาเป็นที่ตั้งเจ้าค่ะ”
“ก็มีเหตุผลอยู่ แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องเตรียมการตั้งรับไว้อยู่แล้ว อังวะคิดจะยึดครองอโยธยาหรือไม่คงไม่สำคัญ”
“สำคัญเจ้าค่ะ สำคัญมากเสียด้วย เพราะเราจะวางแผนรับมืออังวะอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับประสงค์ของอังวะนี่ล่ะเจ้าค่ะ”
“อย่างไรรึ ฉันไม่เข้าใจ”
ขันทองครุ่นคิดว่าจะอธิบายอย่างไรดี
ooooooo
ในศาลาลูกขุน ขันทองอธิบายข้อเสนอของตนให้พระยาพลเทพ พระยากำแหง ขุนแผลงฤทธิ์ แน่น และขุนนางคนอื่นๆในที่ประชุมฟังว่า
“เมื่ออังวะคิดเพียงแค่ยึดทวายกับเชียงใหม่ เราจึงมิควรตั้งรับอยู่ในแดนของเรา แต่ควรส่งกองทัพใหญ่ไปช่วยทวายแลเชียงใหม่เจ้าค่ะ ด้วยเหตุที่อังวะไม่ได้เตรียมตัวมารับกองทัพใหญ่ แลเรายังได้ชัยภูมิเมืองทวายกับเชียงใหม่ช่วยอีกด้วย จึงมีความได้เปรียบมากอยู่ อีกทั้งทวายแลเชียงใหม่สวามิภักดิ์ต่อเราแล้ว เมื่อเกิดศึกเราไม่ยกทัพไปช่วย ก็จะโกรธเคืองแลเสียใจได้เจ้าค่ะ”
พระยาพลเทพชมว่าข้อเสนอของพระศรีขันทินก็ไม่เลว แต่เห็นว่าเราควรตั้งรับอยู่ในเขตแดนเพราะถ้าเราส่งกองทัพใหญ่ออกไปแล้วเกิดไม่ได้ชัย เราจะไม่เสียทั้งคนทั้งขวัญกำลังใจรึ ขันทองติงว่าหากทำเช่นนั้นก็เท่ากับเราปล่อยให้ทวายแลเชียงใหม่รับศึกตามลำพัง
“จะห่วงกระไร พวกเมืองประเทศราช ถึงจะถูกยึดไปก็หากระเทือนถึงอโยธยาไม่” พระยาพลเทพตัดบท










