ตอนที่ 5
ผ่านมาอีก 7-8 วัน เจ้าจอมเพ็ญกำลังจับแขนเลื่อนพยุงเดินช้าๆอยู่ในตำหนัก โดยมีพระยาพลเทพกับ ขุนแผลงฤทธิ์เดินตาม พระยาพลเทพปั้นหน้าเศร้าเสียใจที่เจ้าจอมเพ็ญแท้ง แต่ทราบว่าเจ้าจอมต้องพักฟื้นจึงรอถึงเจ็ดแปดวันค่อยมา เจ้าจอมเพ็ญถามหมายความว่ากระไร
“กระผมไม่สบายใจ จึงให้ท่านขุนแผลงฤทธิ์ลอบไปพบขรัวท่าน พอบอกท่านเรื่องหน่อพระพุทธเจ้า
ขรัวท่านตกใจนัก ด้วยไม่คิดว่าจะมีหน่อพระพุทธเจ้ามาเกิดในครรภ์เพลานี้ ด้วยอีกสองปีถึงจะมีหน่อพระพุทธเจ้าที่มีบุญบารมียิ่งใหญ่มาเกิด การมาเพลานี้จึงถือว่าเร็วเกินไปขอรับ”
“กระผมมั่นใจว่าด้วยบุญบารมีของหน่อพระพุทธเจ้า พระองค์ที่สองจึงทำให้เจ้าจอมแท้งในครานี้ เพราะไม่อาจแข่งบุญบารมีได้ขอรับ” ขุนแผลงฤทธิ์รีบสนับสนุน
เจ้าจอมเพ็ญเชื่อสนิท อารมณ์ดีขึ้นทันทีบอกว่าสองปีตนรอได้อยู่แล้ว ฉุกคิดอะไรได้ถามเลื่อนว่า พระราชาข่านสิ้นแล้วจะต้องมีการแต่งตั้งหัวหน้าขันทีคนใหม่เพื่อดูแลฝ่ายใน มีการเลือกกันไปแล้วหรือไม่
“ยังเจ้าค่ะ บ่าวได้ฟังมาว่ากรมขุนวิมลภักดีจะทรงเลือกในบ่ายวันนี้เจ้าค่ะ แต่บ่าวเห็นว่าหม่อมแม่ยังเศร้าใจอยู่จึงไม่ได้กราบเรียนเจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นก็ยังทัน” เจ้าจอมเพ็ญยิ้มพอใจ
เวลาเดียวกันนั้น หลวงศรีมะโนราชกำลังเดินคุยมากับขุนเทพชำนาญและขุนเทพรักษาอย่างอารมณ์ดี
ขุนเทพรักษาประจบว่า มิพักต้องสงสัยเลยว่าผู้ที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าขันทีคนต่อไปแทนพระราชาข่านต้องเป็นคุณหลวงแน่
ขุนเทพชำนาญสอพลอว่าถ้าไม่ติดว่าหลายวันมานี้มีเหตุต้องสะสางมากมาย คุณหลวงคงได้ขึ้นแต่
วันแรกที่พระราชาข่านตายแล้ว
“ขึ้นแต่วันแรกก็น่าเกลียดเกินไป รอสักหน่อยจะงามกว่า...แต่ทันทีที่ฉันได้ขึ้นเป็นหัวหน้าขันที ฉันจะไม่ปล่อยให้อ้ายศรีขันทินมันเป็นสุขอีกเลย” หลวงศรีมะโนราช
ยิ้มร้าย
ขุนเทพชำนาญและขุนเทพรักษาต่างสอพลออาสาจะลงมือเพราะชังน้ำหน้ามานานเหลือเกินแล้ว
ooooooo
ที่เรือนขันทอง เยื้อนเก็บข้าวของของขันทองลงหีบ ถามว่าเราจะย้ายไปอยู่เรือนอื่นจริงหรือ
“ช้าหรือเร็วก็ต้องไป คุณหลวงศรีมะโนราช
ไม่ชอบหน้าฉันมานานหนักหนาแล้ว ครานี้ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าขันที ฉันคงต้องรับเคราะห์เป็นแน่ แค่ถูกไล่ออกจากเรือนนี้ยังถือว่าสถานเบานะเจ้า”
เยื้อนบอกว่าออกหลวงจะไปอยู่ที่ใดบ่าวก็จะตามไปรับใช้ทุกที่ ขันทองบอกว่าตนอาจต้องไปอยู่ที่ทิมขันทีเจ้าไปด้วยไม่ได้ดอก “อย่ากลัวเลย ฉันฝากฝังเจ้ากับขุนรักษ์เทวาแล้ว เจ้าจะได้อยู่สุขสบายเหมือนเดิม”
เยื้อนเข้าไปกอดขาขันทองร้องไห้ฟูมฟายว่าตนไม่อยากแยกจากออกหลวง อย่าทิ้งบ่าวไป ขันทองไม่ชอบที่เยื้อนมาถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้ กระอักกระอ่วนใจ บอกให้เยื้อนปล่อยเถิดอย่าทำเช่นนี้เลย เมื่อเยื้อนปล่อยแต่ยังร้องไห้ ขันทองถอนใจเอ่ย
“ขอบน้ำใจเจ้านักที่ภักดีต่อฉัน แต่ถ้าฉันต้องระเห็จไปอยู่ทิมขันทีจริง อย่างไรก็ให้เจ้าไปด้วยไม่ได้ ที่ฉันช่วยได้ก็คือ ไม่ให้เจ้าที่เป็นบ่าวลำบากลำบนไปด้วยเท่านั้น” แต่เยื้อนยังจะอ้อนต่อ ขันทองตัดบทว่า “ทำใจเสียเถิด เจ้าเองก็กำเนิดเป็นลูกพระยา ย่อมเห็นความไม่จีรังของวาสนาอยู่แล้ว อย่าดื้อดึงให้ฉันต้องลำบากใจไปด้วยเลย”










