ตอนที่ 14
อาม่ายิ้มชอบอกชอบใจ “ตึ่งโป๊ะ! ลื้อฉลาดเหมือนอาม่าเลย อาเดียวคิดว่าทำได้มั้ย”
“ได้แน่นอนค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัว”
“เดี๋ยวค่ะอาม่า เดียวขอถามอะไรสองข้อ ถ้าเดียวย้อนเวลาเพื่อกลับไปแก้ไขอดีต แล้วตัวเดียวในอนาคตที่ยืนอยู่ตรงนี้จะเป็นยังไงคะ”
“ตัวอาเดียวมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เส้นกาลเวลาของมนุษย์ก็มีเพียงเส้นเดียวเหมือนกัน ถ้าเราแก้ไขอะไรมันก็จะส่งผลให้บางอย่างในอนาคตเปลี่ยนไป มากน้อยขึ้นอยู่กับการกระทำของเราในปัจจุบัน เอาละ คำถามที่สองคือ?”
“เดียวอยากรู้จุดจบของไอ้คนที่มันแทงเอ๋ยค่ะ จะมีคนที่จัดการมันหรือเปล่า เดียวอยากแฉ อยากขุดคุ้ยขบวนการของพวกมันให้หมด”
“ลื้อก็เจอมันแล้ว ลื้อน่าจะรู้ว่าลื้อไม่ใช่คนที่จะต่อกรกับอีได้ อีเป็นคนอันตราย การเข้าใกล้พวกมันมีแต่จะทำให้ลื้อกับอาจังเอ๋ยเดือดร้อน แต่ลื้อไม่ต้องกลัว ธรรมย่อมรักษาประพฤติธรรมฉันใด กรรมก็ย่อมลงโทษผู้สร้างเวรสร้างกรรมฉันนั้น ทีนี้หลับตาตั้งสติดีๆ”
เดียวหลับตาลง แล้วนึกได้ร้องเสียงหลง “เดี๋ยว! อย่าเพิ่งค่ะอาม่า”
“อะไรอีกล่ะ”
“เราจะได้พบกันอีกไหมคะ”
“พบสิ เมื่ออาเดียวกลับไปก็พบอาม่าเอง และเราสองคนก็จะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างคุ้มค่าที่สุด”
เดียวน้ำตาซึม...หลับตาลง อาม่าลูบผมหลานรักอย่างอ่อนโยนแล้วร่ายมนตร์เบาๆ
และแล้วเดียวก็ได้ย้อนกลับไปเมื่อสามปีที่แล้วสมใจ
เดียวตื่นนอนลืมตาดูนาฬิกาแล้วรีบลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปทำงานในวันที่ 28 ธันวาคม เป็นช่วงปลายปี เธอลงมาเห็นอาม่าเก็บดอกมะลิหน้าบ้าน เพียงเห็นท่านเดียวที่รู้อนาคตทุกอย่างมาแล้วก็น้ำตาไหล สวมกอดท่านแน่นด้วยความรู้สึกว่าอีกไม่นานร่างอุ่นๆที่ยังเต็มไปด้วยเลือดเนื้อก็จะจากไปชั่วกาล ครู่หนึ่งจึงดันตัวออกมา ปาดน้ำตาทิ้งแล้วบอกท่านว่า
“เดียวรีบไปทำธุระก่อนนะคะอาม่า แล้วหลังจากนี้เราสองคนจะใช้เวลาที่เหลืออย่างคุ้มค่าที่สุด”
อาม่าย่นคิ้วที่หลานสาวพูดแปลกๆ เดียวเดินแกมวิ่งไปหน้าบ้าน อาม่าถามว่าทำไมไม่เอารถไป เธอตอบโดยไม่ดูรถว่า “รถยางแบนค่ะ มีอะไรไว้คุยกันเย็นนี้นะคะ เดี๋ยวไม่ทันมอเตอร์ไซค์ที่กำลังมา”
เธอวิ่งพรวดไปแล้ว ทิ้งให้อาม่ายืนงงๆ บ่นงึมงำว่า “รู้ได้ไง”
เดียวเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้ไปโรงเรียนปราชญาวิทย์ ระหว่างทางรถติดไฟแดงเธอเห็นลุงแอ๊ดเจ้าเก่าก็จำได้ว่าเขาคนนี้ทำให้เธอพลาดการสัมภาษณ์กาลรุจิ จึงให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างเฉียดไปใกล้ พอสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว เดียวก็เหยียดขาถีบมอเตอร์ไซค์ลุงแอ๊ดจนเซล้มทั้งคนทั้งรถ แล้วบอกให้รถที่ตนนั่งรีบไปเลย










