ตอนที่ 12
“ไม่ใช่ค่ะ มันเป็นเพราะเดียวเอง”
“แต่ผมก็คงมีส่วนนะ”
“เขาไม่มีเหตุผลเองต่างหาก”
“คุณเดียว ถ้าหากผมช่วยอะไรได้...”
“ไม่มีประโยชน์ค่ะ”
“ในเมื่อยังไม่ได้ลองแล้วเราจะรู้ได้ยังไง จริงไหมครับ”
“ที่เดียวบอกว่าไม่มีประโยชน์ เพราะเขามีคนอื่น ...คนอื่นที่ดีพร้อมมากกว่าเดียว”
“ไม่จริง คุณเดียวอย่าดูถูกตัวเองอย่างนั้น ที่สำคัญคุณเอ๋ยคงไม่มีวันมองคนอื่นอีกแล้ว ต่อให้ดีแค่ไหนก็ตาม...เพราะเขารักคุณเดียวมาก แค่ผมเจอเขาวันนั้นก็รู้แล้วว่าคุณเอ๋ยรักคุณเดียวแค่ไหน ผมเชื่อว่าทุกอย่างยังไม่สายเกินไป เพียงแต่คุณเดียวจะลดทิฐิลงสักนิด ในฐานะที่ผมมีส่วนทำให้คุณเดียวกับคุณเอ๋ยเข้าใจผิดกัน ผมขอแก้ตัวโดยจัดการทั้งหมดเองนะครับ”
เดียวร้องไห้อย่างไม่อาย ถามเสียงสั่นเครือว่าเขาจะทำยังไง
“คุณเดียวแค่ทำตามที่ผมแนะนำเท่านั้น รับรองว่าไม่ถึงกับต้องถือธูปเทียนแพไปกราบขอขมาแน่นอน”
คำพูดติดตลกของชาลีทำให้เดียวหัวเราะทั้งน้ำตา หลังจากนั้นเขาโทร.รายงานผลกับแบม แบมดีใจและขอบใจชาลี แล้ววางแผนต่อไปว่าจะรอให้สองคนนั้นคิดถึงกันมากๆอีกนิดแล้วค่อยจัดการ เอาสักประมาณสิ้นเดือนนี้
แบมวางสายจากชาลีด้วยความสบายใจ บอกต่ออ๋อว่า
“เรียบร้อย ยัยเดียวใจอ่อนโอเคแล้ว เหลือแต่ตาเอ๋ย ซึ่งอันนี้เป็นหน้าที่ของตัวเอง”
จากนั้นแบมก็เล่ารายละเอียดแผนการของตนให้สามีฟังเพื่อไปหาทางทำให้เอ๋ยใจอ่อนอีกคน
ooooooo
หลังจากตกลงกับชาลีเรื่องง้อเอ๋ยไปแล้ว
เมื่อตอนหัวค่ำ ตกดึกเดียวฝันว่าโดนเจ้าแม่ซีซ่ามาหยอกเย้าด้วยการท่องบทกลอนให้ฟัง
“ความเอ๋ยความรัก เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนไหน เริ่มเพาะเหมาะกลางหว่างหัวใจ หรือเริ่มในสมองตรองจงดี แรกจะเกิด...”
“พอได้แล้วท่านแม่ ลูกหมึกไม่อยากฟัง”
“เพราะออก มาจากบทพระราชนิพนธ์แปลของในหลวงรัชกาลที่ 6 เรื่องเวนิสวาณิชเชียวนะ เห็นไหมว่าท่านแม่รู้จริงตรงใจลูกหมึกเลยใช่ไหมล่ะ”
เดียวนิ่งไปเหมือนจะจำนน เจ้าแม่ซีซ่าได้ทีพูดไม่หยุด
“ลูกหมึกไม่รู้ตัวว่าเริ่มรักอาจารย์เอ๋ยมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ปากบอกว่าเกลียด ไม่ใช่สเปก แต่แล้วก็แอบหลงรักโดยไม่รู้ตัว”
“เอ๊ะ! ลูกหมึกบอกแล้วว่าไม่อยากฟัง”
“แต่ท่านแม่ก็ยังชมลูกหมึกว่ายังดีที่ยอมรับความช่วยเหลือจากคนอื่นก่อนที่จะสายเกินไป”
“ลูกหมึกไม่ได้อยากจะง้อ...”
“นั่นแหละเขาเรียกว่าง้อ แต่เขาเรียกว่าง้อแบบ
มีเชิงไง ความเอ๋ยความรัก...”










