กุหลาบเกราะเพชร

มีเสียงปืนดังเข้ามา ทำให้เตชิตร้อนใจมาก สั่งชยธรป้องกันนักโทษไว้ก่อน กัญญาวีร์ดึงกานดาหลบทำให้เตชิตต้องตามไปด้วยเพราะมือติดกุญแจมือ นักฆ่าหญิงหน้าตาตื่นพูดซ้ำๆว่ามันมาแล้ว จากนั้นลากเตียงไปที่ประตูห้องเอาปากงับวงกบแล้วปิดประตูกระแทกท้ายทอยตัวเองจนมึน กระสุนปืนปลิวมาถูกกระจกห้องแตกกระจาย เตชิตต้องดึงกัญญาวีร์ไปหลบ

วรมันยิงใส่พวกการ์ดไปพลางบุกตะลุยไปตามทางกระทั่งไฟรีโมตเปลี่ยนไปเป็นสีแดง

หญิงคนร้ายโงหัวขึ้นมาแล้วบ้วนฟันที่กระแทกหลุดออกจากปากพร้อมเลือดจำนวนมาก เห็นไฟกะพริบจากซากฟันเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นแดง เธอหยิบฟันโยนไปทางเตชิตที่หลบอยู่กับกัญญาวีร์ที่ซอกตู้มุมห้อง ฟันตกห่างตัวไปหนึ่งเมตร เป็นจังหวะเดียวกับวรมันยิงการ์ดทิ้งเป็นนัดสุดท้ายแล้วกดรีโมตที่กะพริบเป็นสีแดง ซากฟันระเบิดตูมร่างของเตชิตกับกัญญาวีร์กระเด็นราวกับถูกกระชาก ฝุ่นฟุ้งไปหมดแทบมองอะไรไม่เห็น

ภารกิจสำเร็จ วรมันมองซากตึกกับฝุ่นควันที่ปลิวว่อนออกมาจากหน้าต่างห้องเป้าหมายที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับเสียงไซเรนรถตำรวจดังแว่วเข้ามา

ooooooo

ชยธรพยายามมองฝ่ากลุ่มควันและฝุ่นที่ฟุ้งไปทั่วเพื่อหาตัวเตชิตกับกัญญาวีร์

นักฆ่าหญิงหัวเราะไปร้องไห้ไปราวกับเสียสติ “เราอ่อนแอ เราอ่อนแอเกินไป อ่อนแอๆๆ”

ในที่สุดชยธรก็เจอสารวัตรหนุ่มกับกัญญาวีร์ที่โดนเศษตู้หล่นทับ แรงระเบิดทำให้โซ่กุญแจมือขาดจากกัน เตชิตไม่เป็นอะไรแค่ฟกช้ำ ขณะที่กัญญาวีร์นอนนิ่งไม่ไหวติง เขาเห็นเธอไม่หายใจรีบผายปอดให้...

ขณะที่กัญญาวีร์อาการเป็นตายเท่ากัน ที่องค์กร ONE วรมันนอนอยู่บนเตียงโดยมีแพทย์หลายคนที่แต่งตัวคล้ายช่างเครื่องมากกว่าจะเป็นหมอผ่าตัดกำลังใช้คีมคีบหัวกระสุนออกจากร่าง โดยมีชัช ปอมและพิพัฒน์ยืนมองอยู่ข้างๆ วรมันบอกกับชัชและปอมถ้ากำลังอิจฉาตนอยู่ก็ให้เลิกคิดได้แล้ว ไม่มีอะไรให้น่าอิจฉาสักนิด พิพัฒน์ดูข่าวจากในมือถือ มีเสียงรายงานเรื่องการระเบิดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

“แกคิดถูกแล้วที่ไม่อยู่เจอพวกตำรวจ...ฉันมีงานให้แกทำ หลังจากซ่อมบำรุงเสร็จ”

ชัชคาใจไม่หาย  วรมันแน่ใจหรือว่านังนั่นตายแน่ๆ เขาโพล่งขึ้นทันทีหรือจะลองให้ระเบิดฟันกรามชัชดู พิพัฒน์เองก็อยากให้แน่ใจ ตกลงเขาเห็นซากของนังนั่นใช่ไหม เขาไม่เห็นเพราะตำรวจมาถึงเสียก่อนที่จะได้เช็กซาก จึงเลือกที่จะให้เป็นความลับขององค์การ พิพัฒน์ไม่สบายใจนักที่ไม่เห็นซากแต่ปากกลับพูดไปอีกทาง

“ระเบิดขนาดนั้น หัวคงเละไปแล้ว”