ตอนที่ 11
“แล้วลูกค้าที่ไหนจะกล้าเข้าร้านลินคะ ลินจะเปิดร้านขายดอกไม้ไปทำไมคะ”
“เอางี้ พี่จะให้ลูกน้องอยู่แค่หน้าร้านก็แล้วกันจะไม่ให้เข้าไปรบกวนลินในร้าน โอเคไหม”
“ดีค่ะ”
“งั้นก็ขึ้นไปอาบน้ำจะได้ลงมากินข้าวด้วยกัน”
นลินผละไป คิมหันต์เห็นเที่ยงเข้ามาก็ถามถึงภาสกรว่าได้ข่าวบ้างไหม เที่ยงบอกว่าเงียบไปเลย คิมหันต์พอใจแต่ลึกๆอดระแวงไม่ได้ว่าภาสกรอาจซุ่มเงียบทำอะไรอยู่
แล้วก็จริงตามที่คิมหันต์ระแวง ภาสกรตามตื๊อหินเพื่อให้มาเป็นบอดี้การ์ดโดยยื่นข้อเสนอเป็นเช็คเงินสดไม่กรอกตัวเลข หินอยากได้เท่าไหร่ให้ใส่เอาเองตามสบาย...
ทางด้านน้ำกับเผือกที่ยังตามหาหินไม่พบ วันนี้สองคนปรับทุกข์กันที่โรงพยาบาล แต่พอนลินปรากฏตัวพร้อมขนมที่ตั้งใจเอามาฝากสุนีย์ น้ำกลับผลักไสไล่ส่งและสั่งห้ามเธอมาที่นี่อีก
“ทำไมล่ะน้ำ”
“ยังมีหน้ามาถาม ต่อไปนี้อย่ามายุ่งกับพวกเรา พวกเราไม่อยากรับอะไรจากบ้านของลินอีกแล้ว”
“น้ำโกรธลินเรื่องอะไร ลินไม่เข้าใจ”
“พี่ชายลินแย่งคนที่พี่หินรักไปถึงสองคน คนแรกคือพี่รตี คนที่สองคือพี่ติ๊ แล้วแบบนี้ลินยังจะให้น้ำพูดจาดีๆกับลินอยู่อีกไหม”
“น้ำ...ลินไม่รู้เรื่องพี่ติ๊กับพี่หินเลยนะ”
“เธอจะพูดอะไรก็พูดได้สิ ในเมื่อพี่ติ๊เลือกพี่ชายของเธอ กลับไปซะ ก่อนที่ฉันจะทำอะไรรุนแรงมากกว่านี้”
น้ำสะบัดหน้าเดินหนีไปพร้อมเผือก นลินก้าวตามมาถามน้ำว่าตอนนี้พี่หินเป็นอย่างไรบ้าง น้ำหันกลับมาตวาดอย่างอัดอั้น
“จะถามทำไม...ป่านนี้ยังตามไม่เจอ จะเป็นตายยังไงก็ไม่รู้”
“น้ำมีอะไรให้ลินช่วย...”
“ไม่ต้อง!! ไม่ต้องมาช่วยอะไรทั้งนั้น เราไม่ใช่เพื่อนกันอีกต่อไปแล้ว”
น้ำประกาศตัดขาดนลินแล้วเดินลิ่วออกไปร้องไห้มุมหนึ่ง เผือกตามมาเห็นพลอยสะเทือนใจไปด้วย
“พี่เผือก...น้ำสงสารพี่หิน แล้วก็สงสารตัวเอง...ทำไมพวกเราถึงเจอแต่เรื่องร้ายๆไม่มีที่สิ้นสุดแบบนี้ พวกเราทำกรรมอะไรเอาไว้ก็ไม่รู้” น้ำสะอื้นตัวโยน เผือกสงสารมากเข้ามากอดปลอบ
“ร้องออกมาเถอะน้ำ ร้องออกมา...อย่าเก็บเอาไว้อีก”
น้ำร้องไห้โฮอย่างอัดอั้นคับแค้น...เผือกลูบหลังให้กำลังใจเธอทั้งที่ตัวเองก็แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่
ooooooo
บ่ายวันเดียวกันภาสกรมาปรากฏตัวที่สนามมวยเผชิญหน้ากับคิมหันต์หลังจากห่างหายจากกันไปหลายวัน แต่การมาครั้งนี้ภาสกรไม่ได้มาคนเดียว เขามีบอดี้การ์ดหนุ่มหล่อซึ่งคิมหันต์รู้จักเป็นอย่างดีมาด้วย










