ตอนที่ 13
แผนบีบเปรมจิตของเยี่ยมยุทธกับดาวเหนือคือให้ดาวเด่นเป็นพยานสำคัญ สองหนุ่มสาวมุ่งหน้าไปหาดาวเด่นที่บ้านแดนกับเดือนเพ็ญกล่อมให้กลับตัวกลับใจและร่วมมือเอาผิดเปรมจิต
เยี่ยมยุทธไม่เร่งรัดดาวเด่นแต่เสนอตัวช่วยให้อีกฝ่ายหาเงินได้อีกครั้ง
“ถ้านายกลับมาหาเงินได้ความภาคภูมิในชีวิตของนายจะกลับมา นายจะมีกำลังใจฟื้นฟูร่างกายเพราะการทำมาหาเลี้ยงชีพได้ด้วยตัวเองคือศักดิ์ศรีของทุกชีวิต”
ดาวเด่นคล้อยตามแต่ไม่มีไอเดียธุรกิจสำหรับคนพิการ เยี่ยมยุทธเสนอให้เขาทำเพจความรู้เกี่ยวกับรองเท้ากีฬาเพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายชื่นชอบถึงขั้นบ้าคลั่งรองเท้ากีฬามากแค่ไหน
“เพจให้ความรู้...ตรงๆเลยนะผมไม่ใช่คุณ ผมไม่เคยได้อะไรจากสังคมแล้วทำไมผมต้องให้อะไรกับสังคมด้วย”
“นี่ล่ะปัญหาของนาย นายไม่เคยให้นายเลยไม่เคยได้รับสิ่งดีๆ เพราะนายคิดถึงแต่ตัวเองนี่ไงนายถึงไม่รวย”
เยี่ยมยุทธร่ายคาถาเศรษฐีประจำตัวคือเป็นผู้ให้ได้ถึงจะเป็นผู้รับที่ยิ่งใหญ่
“คนรวยเป็นพวกไหนรู้ไหม...เมื่อเป็นคนขายเขาจะเป็นคนขายที่ดี คิดถึงแต่คนซื้อ ห่วงแต่จะให้สิ่งดีๆ ที่คนซื้อต้องการ ให้บริการคิดแก้ปัญหาเวลาลูกค้ามีปัญหา ส่วนพนักงานรายเดือนคิดถึงแต่ว่าวันนี้จะได้เงินเท่าไหร่ จะเลิกงานกี่โมง คนพวกนี้คิดแต่จะเป็นผู้รับ คนพวกนี้เรียกว่าลูกจ้างรายวัน ตลอดชีวิตจะเป็นได้แค่แรงงานไร้ฝีมือ...เป็นคนจน!”
ดาวเด่นผงะ ก่อนจะยอมรับความจริงด้วยสีหน้าจ๋อยๆ เยี่ยมยุทธต้องให้กำลังใจ
“ถ้านายมอบความรู้ทุกคนจะเชื่อถือจะเข้ามาหา พอมีคนเข้ามาหาทีนี้แล้วแต่นายจะขายรองเท้า จะรับจ้างรีวิวรองเท้า จะเปิดประมูลรองเท้าก็แล้วแต่นายละ”
ดาวเหนือเสริมดักคอ “แต่ห้ามรับพนันบอลนะ คนรวยที่ทำผิดกฎหมาย รวยเร็วจริงแต่ไม่นานหรอก”
“เข็ดแล้วน่า เอาเป็นว่าผมจะลองดู”
ในที่สุดเยี่ยมยุทธกับดาวเหนือก็เกลี้ยกล่อมดาวเด่นสำเร็จ ทั้งเรื่องเปิดเพจให้ความรู้และเป็นพยานปากเอกคดีเผามูลนิธิ แต่ไม่ทันเริ่มคลี่คลายทุกอย่าง
สองหนุ่มสาวก็ต้องตกใจกับวีรกรรมของสุนทร
แทนไทวิ่งโร่มาแจ้งข่าวว่าสุนทรทำคลิปกับเพจแฉความจริงเรื่องคดีวางเพลิงบ้านนนท์กับสุดา










