ตอนที่ 13
เพจให้ความรู้เรื่องรองเท้ากีฬาของดาวเด่นไปได้ดี มีคนตามและให้ความสนใจมากมายในระยะเวลาไม่นานจนตอนนี้เริ่มมีเจ้าของสินค้าส่งของมาให้เขารีวิวเป็นรายได้แล้ว ดาวเหนือรู้สึกยินดีกับลูกพี่ลูกน้องหนุ่มที่วันนี้กลับตัวได้
ดาวเด่นยิ้มรับบางๆ สีหน้ามีความสุขกับสิ่งต่างๆรอบตัว “ชีวิตคนปกติคือแบบนี้ใช่ไหม...ไม่ต้องวิ่งวุ่นเรื่องการหมุนเงินเดือนชนเดือนจนกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวและในที่สุดก็ไร้ศีลธรรม”
“ชีวิตที่ไม่มีหนี้มีอิสระมีสิ่งที่เรียกว่าคุณค่าไม่ใช่มูลค่า เมื่อหาคุณค่าจนเจอมูลค่ามันจะแพงแค่ไหนก็ไม่จำเป็น”
หลังจัดการชีวิตให้คนอื่น เยี่ยมยุทธก็บำบัดตัวเองด้วยการไปหาเปลวที่คลินิก
“ปีกว่าที่ผ่านมาผมทำในสิ่งเลวร้ายที่สุด โกหกหลอกลวงเพื่อน้องที่ตายไปแล้วกับพ่อนักการพนันจอมเจ้าเล่ห์”
“พ่อเป็นคนดีสำหรับลูกทุกคนอยู่แล้ว คุณจดจำท่านถูกต้องมาตลอด”
“ท่านใช้ความหล่อใช้เสน่ห์หลอกผู้หญิงเหมือนที่ผมทำกับปิ่นมุก แม้แต่หมุนเหรียญผมยังทำเหมือนเขา”
“คุณกำลังรู้สึกผิดหรือครับ”
“ผมไม่ควรเริ่มเรื่องนี้เลย ถ้าไม่เริ่มครูอารีก็ไม่ต้องตาย”
“เวลามีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นไม่ได้มีปัจจัยอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว ถ้าปิ่นมุกไม่มาเจอ ถ้าดาวเหนือไม่อยู่ตรงนั้น ถ้าครูอารีหนีรอดออกมาได้ เห็นไหมมีเหตุมีปัจจัยมากมาย”
“ผมปวดหัวทุกวัน หมอจะให้ยาผมใช่ไหม”
“อย่าลืมเรื่องดีๆที่เกิดขึ้น มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเพราะการกระทำของคุณใช่ไหม”
“ผมเอาผิดเปรมจิตได้ ปิ่นมุกยอมรับผิดและแก้ไขชีวิตตัวเองไปในทางที่ดี แทนไทได้เงินชดเชย
ดาวเด่นอีกคนที่พลาดแต่กำลังจะเริ่มต้นใหม่ และที่ดีที่สุดในชีวิตคือผมเจอดาวเหนือ”
“ทุกคนเชื่อมโยงกัน เป็นปัจจัยให้แก่กันและกันทั้งทางบวกและลบ นี่คือชะตาชีวิตครับ ไม่มีใครเกิดมาเพื่อรับภาระรับผิดชอบต่อชีวิตของใครคนหนึ่ง ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุและปัจจัย...ชีวิตคุณต้องเดินหน้านะครับ”
ooooooo
เปรมจิตเสียใจมากที่ต้องสละตำแหน่งประธานธนาคาร ทั้งชีวิตที่ทุ่มเทหายวับเพียงพริบตาเพราะทิฐิและความโกรธของตัวเอง ปิ่นมุกทนเห็นแม่เศร้าซึมไม่ไหวพาไปทำบุญที่มูลนิธิบ้านเปรมจิต
“แม่ชอบทำบุญกับเด็ก มูลนิธินี้เกิดขึ้นเพื่อชดเชยความผิดเรื่องนนท์กับครอบครัวของเขาใช่ไหมคะ”
อดีตประธานธนาคารอึ้งไปอึดใจ ปิ่นมุกทำเป็นไม่สนใจชี้ชวนให้ชมบรรยากาศของมูลนิธิฯ










