ตอนที่ 13
“คุณคงคิดแล้วว่าฉันคือคนโง่ที่คุณจะหลอก จะปั่นหัวได้ ฉันเป็นแบบนั้นในสายตาของทุกคนใช่ไหม”
เยี่ยมยุทธถอนใจยาว รู้สึกผิดไม่น้อยแต่จำเป็นต้องทำ “ผมรู้จักผู้หญิงอย่างคุณดี ผมชดเชยให้คุณด้วยการทำให้คุณเป็นคนดีขึ้น ผมเชื่อมั่นในตัวคุณจริงๆปิ่นมุก ไม่ได้หลอกลวงไปซะทั้งหมดหรอก”
“แต่ฉันทำเรื่องเลวทรามไปมากมายเพราะคุณนะ! เพราะคุณ!”
“ใช่...ผมทำให้เรื่องวุ่นวาย ผมอยากจบมันทุกวันแต่ผมยังไม่เจอน้อง เสียงน้องร้องไห้ยังตามเรียกให้ผมกลับมา ฉะนั้นมาจบเรื่องเลวๆของคนเลวอย่างพวกเราเถอะ บอกผมมาว่าน้องผมอยู่ไหน ยี่สิบปีที่ผ่านมาคุณทำอะไรกับเธอบ้าง”
เปรมจิตเจ็บใจที่ถูกหลอกแหวใส่เยี่ยมยุทธไม่ไว้หน้า
“อย่ามาทำเสียงแบบนี้ใส่ฉัน ฉันเป็นเจ้านาย ฉันเป็นแม่ยาย ฉันคือธนานุวัตร ฉันเหนือกว่าแกหลายขุม!”
ooooooo
เปรมจิตปากแข็งไม่ยอมเล่าความจริงเมื่อยี่สิบปีก่อนโดยเฉพาะเรื่องขวัญน้องสาวคนเดียวของเยี่ยมยุทธ พ่อมดการเงินต้องเปิดคลิปสารภาพความจริงทั้งหมดของดาวเด่นให้ดู เปรมจิตหน้าซีด กลัวแต่ทำไม่ยี่หระ
“ก็แค่แหล่งข่าวที่หาความจริงไม่ได้ ไม่มีใครเชื่อถือพวกแกหรอก”
เยี่ยมยุทธเหยียดยิ้มเย็น ท้าทาย “เรามาลองดูไหมครับ...ภาพกล้องวงจรปิดจากสังคมโซเชียลทั้งเรื่องวางเพลิงมูลนิธิ เรื่องวางเพลิงบ้านดาวเด่น รถชนสุนทร บางทีอาจได้หลักฐานไปถึงคดีเก่าของพ่อผม คนเป็นหมื่นเป็นแสน คดีตั้งสามสี่คดี ขอแค่หลักฐานสักชิ้นสักคดีคุณก็อยู่ไม่ได้แล้ว”
“แก...ไอ้เด็กเมื่อวานซืน...นี่แกกล้าหรือ”
“ตำแหน่งคุณคือผู้บริหารสถาบันการเงิน ต้องมือสะอาด น่าเชื่อถือ ไม่ต้องรอกฎหมายไม่ต้องรอตำรวจหรอก แค่ลูกค้าสงสัยไม่แน่ใจแล้วเกิดปิดบัญชีธนาคารสักยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ขอแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น คุณก็อยู่ไม่ได้แล้ว”
เปรมจิตจนมุมกัดฟันสารภาพเรื่องอดีตเมื่อยี่สิบปีก่อน
“ตอนนั้นแกเจ็ดแปดขวบ หวังว่าแกคงจำได้ว่าน้องสาวแกไม่ค่อยสบาย...เป็นโรคหัวใจ”
คำสั่งเสียของพ่อดังในหัว เยี่ยมยุทธจำได้ว่าสัญญาจะดูแลน้องสาวคนเดียวให้ดี
เปรมจิตไม่รู้ความนัยนั้นร่ายให้ฟังถึงเรื่องเก่าๆ “หลังไฟไหม้แกช็อกและมีอาการหลงลืมความจำ ฉันตัดสินใจทิ้งแกไว้บ้านเด็กกำพร้าไม่ให้แกเห็นสิ่งแวดล้อมเก่าๆ เดี๋ยวความทรงจำมันจะคืนมา แต่น้องสาวแกเป็นโรคหัวใจ ฉันตัดสินใจอุปการะและส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลแต่โชคไม่ดีน้องแกตายหลังจากไฟไหม้หนึ่งเดือน”










