ตอนที่ 9
เหมราชรับฟังเรื่องราวอย่างอดทนแต่ยืนยันคำเดิมให้แม่เปลี่ยนใจ แต่มาลินีก็ไม่ฟัง
“เหมอย่าห้ามแม่ สามสิบกว่าปี ถ้าแม่อยากหยุด แม่หยุดไปนานแล้ว”
“ถ้างั้นผมก็คงต้องทำตามคำสั่งของพ่อ”
“แกคิดจะลองดีกับแม่เหรอเหมราช”
“ผมแค่ปกป้องคนที่ผมรักเหมือนกับที่พ่อทำ ผมไม่อยากให้แม่ทำผิดเหมือนกับผม”
มาลินีโกรธจัดตบหน้าลูกชายฉาดใหญ่ ประกาศกร้าวจะไม่ยอมให้แต่งงาน
“แกไม่ได้เป็นฉัน แกไม่มีทางรู้ในสิ่งที่ฉันเป็น ถ้าแกคิดจะช่วยคนพวกนั้น เราจะได้เห็นดีกัน!”
ooooooo
ชลัชอาการดีขึ้นมากจนหมออนุญาตให้กลับบ้าน ชมพูนิษฐ์กับชิดชนกยินดีมาก เช่นเดียวกับอรรณพที่ฉวยจังหวะนี้ขอโอกาสจากชิดชนกอีกครั้งแต่เธอก็ใจแข็ง...ยอมให้เขาเป็นแค่เพื่อนที่แสนดี
เหมราชมุ่งมั่นจะทำตามคำสั่งเสียของพ่อ รวมที่ดินของสุขสยามไว้กับของพัทธนกิจอนันต์ เรื่องแม่จำต้องพักไว้ก่อนเพราะมีภารกิจด่วนคือจัดงานแต่งให้ชมพูนิษฐ์ในแบบที่เธอต้องการ แต่เพียรถามเท่าไหร่ว่าที่เจ้าสาวก็ไม่บอกแถมไล่ให้เขาไปจัดงานตามใจชอบ ซาตานหนุ่มเลยต้องบากหน้าไปปรับทุกข์กับกวินทร์เลขาคู่ใจ
“สำหรับฉัน...งานแต่งงานเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อผู้หญิง”
“ใช่เฮีย...ผู้ชายกี่เปอร์เซ็นต์ในโลกที่อยากแต่งงานจริงๆ”
“ไอ้บ้า...ฉันหมายถึงจัดเพื่อแสดงให้ผู้หญิงรู้ว่าเรารักเขา ให้เกียรติและอยากใช้ชีวิตร่วมกับเขาจริงๆโว้ย”
“ที่เฮียพูดมันก็ถูก แล้วนี่เฮียจะเอาไงต่อ”
“ไม่รู้...แต่ถ้าเขาไม่เลือก ฉันก็จะเลือกเอง”
เหมราชทำตามที่บอกจริงๆด้วยการส่งพนักงานในบริษัทไปเสนอแผนงานแต่งหลายรูปแบบให้ชมพูนิษฐ์ พร้อมดีไซน์ชุดแต่งงานสุดอลังการจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก แถมด้วยเครื่องเพชรชุดใหญ่ที่มิลินไปรับมาจากธนาคาร
กวินทร์เห็นเหมราชนั่งดูรูปชมพูนิษฐ์ลองชุดแต่งงานแบบต่างๆแล้วอดแซวไม่ได้
“เฮ้ย! เร็วและแรงมากฮะเฮีย”
“อืม...แต่จริงๆฉันว่าชุดมันยังน้อยไปอยู่นะ”
“ใช่ฮะ...เดี๋ยวนี้แต่งงานทีเห็นเจ้าสาวเขาต้องมีอย่างต่ำๆก็คนละห้าชุด ชุดสวมแหวนเอย ชุดตักบาตรเอย ชุดยกน้ำชา ชุดรดน้ำ ชุดเดินลงบันไดเอย ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ชุด...เฮ้ย...เฮียมันไม่เยอะไปเหรอ”
“ไม่เยอะหรอก ฉันไม่อยากให้ยัยเด็กนั่นน้อยหน้าคนอื่น งานแต่งงานเป็นงานสำคัญของผู้หญิงนะเว้ยไอ้วิน”
ชมพูนิษฐ์อยากจะเป็นบ้าตาย ในที่สุดก็ทนเป็นตุ๊กตาไม่ไหวต้องลากตัวว่าที่เจ้าบ่าวไปเคลียร์
“ก็แค่แต่งงานปลอมๆ ทำไมคุณต้องทำวุ่นวายขนาดนี้ด้วย”
“แต่สำหรับฉันมันไม่ใช่!”
“คุณหมายความว่าไง”
“เราแต่งงานผู้ใหญ่ก็รับรู้ จัดงานอย่างถูกต้อง มีการประกาศให้สังคมรู้ จดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมาย แถมฉันยังยอมแต่งเข้าไปอยู่ในบ้านเธออีก แล้วงี้ปลอมตรงไหน”
“เดี๋ยวๆนะ ฉันคิดว่าเราแค่ประกาศให้คนอื่นรู้ก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ไม่พอ...ถ้าเราไม่ทำทุกอย่างให้จริง คนเขาก็จะไม่เชื่อถูกไหม...แล้วข่าวลือที่ว่าฉันร่วมทุนกับกิจการเธอก็จะไม่เป็นความจริงทั้งๆที่เราเป็นคู่ค้ากัน เธอคงไม่อยากให้ภาพลักษณ์ของสุขสยามเสียไปจริงๆใช่ไหม ถ้าคนคิดว่างานแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความรักจริงๆก็จะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของสุขสยามนะ ...เธอคิดดูแล้วกัน”










