ตอนที่ 5
เหมียวตามร้องเรียกโขงไปตลอดทาง จู่ๆโขงก็พูดทั้งที่หลับตาอยู่ว่า
“เสียงดังเนอะคุณ” เหมียวชะงักเขินถามว่าเรียกทำไมไม่ตอบ โขงบอกว่าตกใจเป็นลมไปบ้างไม่ได้รึไงแล้วถาม “แล้วยายแจ๊วล่ะ”
หลังจากหมอตรวจโขงแล้วบอกว่าให้งดใช้แขนข้างนี้ระยะหนี่ง ประคบเย็นไม่ต้องถูแล้วขอไปเอาผ้าพยุงแขนให้ บอกใครก็ได้ช่วยประคบเย็นให้หน่อย แป๊ะกับสวัสดิ์รุนหลังเหมียวออกไปประคบเย็น แล้วทั้งหมดก็พากันออกไปอย่างรู้กัน เปิดโอกาสให้โขงอยู่กับเหมียวตามลำพัง
เหมียวเตือนโขงว่าสิ่งที่เขาทำมันเสี่ยงและอันตราย ไม่กลัวตกลงมาหรือไง โขงบอกว่ากลัวแต่พยายามบอกตัวเองว่าไม่ต้องกลัว เพราะมีมณเหมียวรอรับอยู่ โขงขอบคุณเหมียวที่ช่วยตนไว้ เหมียวบอกว่าตนคนเดียวที่ไหน ชาวบ้านช่วยกันต่างหาก
“เจอชาวบ้านผมค่อยขอบคุณ แต่ตอนนี้ ตรงหน้าผมมีแค่คุณนี่” โขงมองเหมียว ทั้งสองสบตากัน
แต่ทันใดนั้นทิชาก็เข้ามาอย่างร้อนใจ จะพาโขงไปโรงพยาบาลประจำจังหวัด จะพาไปเอกซเรย์ โขงบอกว่ากระดูกตนไม่เป็นไรและตนจะไม่ไปไหนเพราะงานตนยังไม่เสร็จ
เมื่อไปเยี่ยมยายแจ๊วที่เมษาบอกว่าตั้งแต่ฟื้นขึ้นมายังไม่ยอมพูดกับใครเลย เกรงว่าต่อไปจะเป็นโรคซึมเศร้าได้ ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่ดีขึ้นคงต้องส่งไปให้จิตแพทย์ในจังหวัด ยายแจ๊วพลิกตัวทันทีร้องเรียกโขงถามว่าเห็นน้อยหน่าไหมทำไมยังไม่กลับมา สงสัยจะโกรธตนจริงเลยทิ้งตนไป ตนเป็นคนทำให้น้อยหน่าทิ้งไปใช่ไหม
เหมียวไหว้ขอโทษยายแจ๊วบอกว่าตนไม่ได้ตั้งใจจะโทษยายว่าเลี้ยงน้อยหน่าไม่ดีอย่าถือสาเลย แต่ยายแจ๊วบอกว่าเหมียวพูดถูกแล้วตนไม่เคยเกลียดน้อยหน่าแม้ไม่ดีใจตอนมันเกิดมาแต่มันก็เป็นหลานคนเดียว ถามโขงว่าชาตินี้ตนจะได้เจอน้อยหน่าอีกไหม
“ต้องได้เจอสิยายแจ๊ว ผมสัญญากับยายแล้วไง ผมต้องพาน้อยหน่ากลับมาให้ได้”
ทิชายืนฟังอยู่ด้วยความสะเทือนใจเพราะรู้แก่ใจดีว่าน้อยหน่าหายไปไหน เมื่อกลับถึงบ้านถามแม่ว่ารู้ใช่ไหมว่าน้อยหน่าหายไปไหน เพราะตอนนี้ยายแจ๊วเสียใจจนคิดจะฆ่าตัวตายแล้ว คุณนายระวีปรามเสียงเข้มว่าตนไม่รู้เรื่องน้อยหน่า ทิชาเองก็เหมือนกันถ้ารู้มากแล้วห้ามปากไม่ได้ก็หูหนวกตาบอดต่อไปเสีย อย่าคิดเปลี่ยนแปลงอะไรเลยเพราะมันไม่ทันแล้ว
“ทำไม...ทำไมคุณแม่ต้องเป็นแบบนี้...” ทิชาพูดอย่างเจ็บปวดแล้วเดินออกไปเลย
ooooooo
เย็นนี้ขณะเหมียวเดินคุยกับโขงมาถึงหน้าสุขศาลาก็เจอรถไสวที่รับทับทิมที่หมดสติเข้ามาที่สุขศาลา เหมียวตกใจถามว่าแม่เป็นอะไร ไสวบอกว่าเห็นบ่นว่าแน่นหน้าอกตั้งแต่บ่ายแล้ว อยู่ๆก็ล้มหมดสติ พยาบาลบอกว่าคนไข้หัวใจหยุดเต้น
เวลาเดียวกัน เปิ้ลถือกระเป๋าไปยืนอยู่หน้าผับพีระ แสนมาเจอถามว่าจะไปไหน เปิ้ลบอกว่าไปเที่ยว พอดีโตมารับ แสนเอะใจว่าไปกับโตแบบนี้ไม่น่าไปเที่ยวแล้ว แสนโทร.หาพ่อทันทีถูกพร้อมที่จับตาดูอยู่ขู่ว่า บอกพ่อให้ระวังตัวหน่อยอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดได้ทุกเวลา อย่าหาเรื่องให้พ่อโดยไม่จำเป็น แล้วเดินผ่านไป
เปิ้ลเจอส้มที่จะไปทำงานต่างประเทศเหมือนกัน แต่พอเห็นชัยมาคุมไปบอกว่าเป็นไกด์ก็เอะใจ แต่ถูกชัยผลักขึ้นรถบอกว่า “สายไปแล้ว...ที่จะเปลี่ยนใจ”










