ตอนที่ 2
ท่าทางเย็นชาและสายตาของเหล่าเพื่อนร่วมกลุ่มแพทย์อาสาทำให้สาลินีหน้าม้าน ไม่มีทางเลือกต้องละมาดคุณหนูหยุดวีนเหวี่ยงและยอมนั่งรถกระบะเปิดประทุนด้านหลังคันใหม่แต่โดยดี
วิไลพรไม่รู้เรื่องความลำบากของสาลินี กรีดร้องลั่นบ้านเมื่อเห็นจดหมายลาไปเป็นแพทย์อาสาของลูกสาวคนเดียว ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาหานักสืบเอกชนไปตามสืบเพราะสาลินีไม่ได้บอกว่าจะไปที่ไหน
ศุภชัยส่ายหน้าอ่อนใจกับความห่วงใยเกินกว่าเหตุของภรรยา ปลอบให้ใจเย็น
“ไม่ต้องตามลูกกลับมา ปล่อยให้เขาทำสิ่งที่อยากทำเถอะ”
วิไลพรหน้าตึง ดึงดันจะไม่ยอม ศุภชัยต้องเตือนสติเสียงอ่อน
“ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วงเขา”
“คุณไม่ห่วงหรือไง”
“ห่วงสิ...แต่การปล่อยให้ลูกบินออกจากรังก็เป็นหน้าที่ของคนเป็นพ่อแม่เหมือนกันนะ เรารักเขามากแต่เราต้องรักในทางที่ถูก ปล่อยเขาออกไปเรียนรู้โลก”
“แต่ลูกเราเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ”
“เขาไม่เป็นไรหรอก เชื่อมั่นในตัวลูกเถอะ แต่ถ้าเขาเกิดบาดเจ็บกลับมา เราจะเยียวยารักษาแผลให้เขาแล้วให้เขาออกไปอีกครั้ง...นี่แหละคือหน้าที่ของพ่อแม่”
ศุภชัยกับวิไลพรตกลงกันได้ ยอมให้สาลินีลูกสาวคนเดียวปลีกวิเวกด้วยการไปเป็นแพทย์อาสา แพทย์สาวมาดคุณหนูเลยได้เปลี่ยนบรรยากาศสมใจทั้งหัวกระเซอะกระเซิงตลอดการเดินทาง เมื่อยล้าทั้งตัวเพราะถนนลูกรังและต้องเข็นรถขึ้นเนินเขา แต่ก็ได้เพื่อนใหม่ดีๆเพิ่มมาหนึ่งคนคือสุกี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข
บรรยากาศเริ่มครื้นเครงเมื่อกลุ่มแพทย์อาสาได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขตลอดการเดินทาง ก่อนต้องแตกตื่น
เมื่อสาลินีแพทย์สาวมาดคุณหนูจากกรุงเทพฯเกิดอาการคลื่นไส้ วิ่งไปอาเจียนเพราะดันกินเนื้อหนูนาย่างเพราะหิวจนตาลาย!
ooooooo
สาลินีพะอืดพะอมจนกลั้นไม่อยู่ อาเจียนรดรถตู้ที่จอดบริเวณนั้น...รถตู้สีหวานแหววของชาตินั่นเอง ชาตินั่งอยู่บนรถ เห็นคราบอาเจียนก็ทำหน้าขยะแขยง แหวเสียงเข้ม
“แก! มาอ้วกใส่รถฉันทำไมยัยบ้า”
“แกด่าใครยัยบ้า”
ชาติเห็นหน้าสาลินีเจ้าของอาเจียนชัดๆก็เบิกตาโพลง จำได้ทันที
“อ้อ...ยัยหมอกุ๊ยนี่เอง”
“ฉันก็จำแกได้ ไอ้ปากปีจอ”
“นี่แกอุตส่าห์แอบสะกดรอยตามมาจากกรุงเทพฯมาอ้วกใส่รถฉันเหรอ”
“ใครมันจะบ้าทำอะไรแบบนั้น พูดมานี่ใช้สมองคิดรึเปล่า”
“อย่ามาทำปากดีนะยัยชะนี อ้วกไม่ดูตาม้าตาเรือ อ้วกรดรถฉันแล้วยังมีหน้ามาเถียงฉอดๆอีกเหรอ”
“พูดดีๆไม่ได้เหรอไง ฉันรู้ว่าฉันผิด กำลังจะขอโทษ ทำไมแกต้องแสดงกิริยาต่ำทรามแบบนี้ออกมาด้วย...หา!”
“ต่ำทราม...ถ้าฉันอ้วกรดหน้าแกบ้าง แกจะยิ้มหวานแล้วบอกว่า...อุ๊ย...คุณท่านอาเจียนเปรอะเปื้อนใบหน้าดิฉันหมดเลยค่ะ แกจะพูดแบบนั้นเหรอไง”
“นี่ปากหรือส้วม ทำไมถึงได้พูดจาระรานหาเรื่องคนแบบนี้”
“ใครกันแน่ปากส้วม อ้วกออกมาเหม็นหึ่งขนาดนี้ ยังมีหน้ามาว่าปากคนอื่นอีกเหรอ”
เสียงเอะอะของสองหนุ่มสาวเป็นเป้าสายตาของชาวบ้านละแวกนั้น นภาในฐานะหัวหน้าทีมแพทย์อาสารีบไปดูและสั่งให้สาลินีขอโทษผู้เสียหาย แพทย์สาวมาดคุณหนูต้องกัดฟันทำตามคำสั่ง
ชาติยิ้มเยาะเรียกร้องการชดใช้แบบไม่ปรานี “เออ...รับได้แต่ยังไม่พอ แกต้องไปเอาน้ำมาล้างให้ด้วย ฉันจะไปกินข้าว กลับมาต้องสะอาด ไม่เหลือคราบอ้วกอยู่บนรถฉัน...เข้าใจไหม”
สาลินีจี๊ดมาก ตั้งท่าจะไม่ยอมแต่เจอสายตากดดันของนภาต้องยอมแบบเสียไม่ได้ ชาติผิวปากอย่างอารมณ์ดีแล้วผละไป ทิ้งแพทย์สาวให้ถูกนภาตำหนิที่ทำตัวไม่เหมาะสม
“ผมขอเตือนว่าที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลเอกชนที่คุณเคยอยู่นะ หัดรู้จักรับผิดชอบบ้าง อย่าเอาแต่ใจตัวเอง”
นภาดุจบก็เดินจากไป ทิ้งสาลินีให้ยืนกำหมัดแน่นแค้นชาติแทบคลั่ง
“จำไว้เลย อย่าให้เจอตอนรักษานะ จะเอาคืนให้หนำใจเลย ไอ้หมอนวดพเนจร...ไอ้ชาติ ลำชี!”
สาลินีไม่ได้ตั้งใจจะเบี้ยวล้างรถให้ชาติ แต่เพราะความหิวทำให้เธอตัดสินใจแวะไปกินข้าวในตลาดก่อน แต่ดันโชคร้ายเจอชาติคู่กรณีหนุ่มนั่งแทะไก่ย่างอย่างเอร็ดอร่อย
ชาติไม่รอช้าผละจากป๋องและอาหารจานโปรดไปดักหน้าแพทย์สาวมาดคุณหนู










