ตอนที่ 3
“คุณพี่รักน้อง แต่คนในบ้านชังน้องทั้งนั้น”
“เหตุใดน้องถึงคิดเช่นนั้นล่ะ”
“ลับหลังน้อง...เขาพากันเรียกน้องนังคณิกานางโลมโคมเขียว”
“ใครมันบังอาจ”
“เขาพูดความจริงนี่คะ น้องจะไปโต้แย้งได้อย่างไร”
“น้องยังไม่ทันได้เป็นอย่างที่พวกมันว่า พี่จะจัดการลงโทษพวกมัน”
“อย่าค่ะ น้องปลง...น้องทำใจตามที่หลวงปู่ท่านให้สติมาค่ะ”
“คนดีของพี่ช่างน่ารัก พี่รักน้องเหลือเกิน”
ooooooo
ความดีความชอบของสำลีทำให้บ่าวไพร่หลายคนอิจฉา โดยเฉพาะนางเอิบและนายอ่ำที่หมั่นค่อนแคะแดกดันชายชราเสมอ สำลีไม่สะทก สะท้านเพราะมีภารกิจสำคัญอื่นรออยู่
หนึ่งในภารกิจสำคัญคือพูดคุยกับเดือนดาราตามลำพัง แล้วเขาก็สบโอกาสเมื่อเธอแวะมาเยี่ยม
เดือนดาราตัดสินใจถามตรงๆ “ถามจริงๆเถิด... ลุงจำฉันไม่ได้หรือ”
“กระผมเองก็อยากถามคุณผู้หญิงเช่นกัน แต่กระผมไม่บังอาจขอรับ”
“สรุปว่าเราจำกันได้ ลุงเสกงูช่วยฉันกับน้องชายตอนเด็ก ฉันติดค้างลุง”
“แต่กระผมยิ่งกว่าติดค้างคุณผู้หญิง คุณผู้หญิงช่วยชีวิตกระผม”
“ไม่เคยนึกเลยว่าเราจะมาพบกันอีก”
“ฟ้าลิขิตเอาไว้ให้กระผมมารับใช้คุณผู้หญิงขอรับ มีสิ่งใดบัญชามาไอ้สำลีคนนี้ขอน้อมรับคำสั่ง และขอปกป้องคุณผู้หญิงไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ขอรับ”
“ขอบใจมาก ฟังนะ...ฉันไม่ได้สั่งแต่ขอร้องให้ลุงอยู่ที่นี่ต่อไป”
สำลีลอบยิ้มสมใจ ก่อนตีหน้าซื่อย้อนถาม
“แต่คุณท่านและคนอื่นจะว่าอย่างไรขอรับ”
“คุณท่านอนุญาตแล้ว คนอื่นไม่มีใครกล้าขัดขวางแน่นอน”
เดือนดาราพูดอย่างมาดมั่น ก่อนทำเสียงเครียดเมื่อคิดถึงสถานะตัวเอง “ที่นี่ยกเว้นคุณท่านกับ
นังพริ้ง ทุกคนเกลียดฉันหมด เกลียดนังพริ้งเพราะเป็นคนของฉัน เพราะฉะนั้นมันจะเกลียดลุงอีกคนเช่นกัน”
“คนพวกนั้นมันใจแคบ มันเกลียดชังเพราะมันคิดว่าคุณผู้หญิงไม่คู่ควรกับคุณท่านเพราะมาจากบ้านโคมเขียว”
คำว่าโคมเขียวทำให้เดือนดาราอ้าปากค้าง สำลีก้มหน้าเอ่ยต่อเสียงเรียบ
“กระผมได้ยินตลอดเวลาที่กระผมมาพักที่นี่ พวกมันพูดจาถึงคุณผู้หญิงอย่างไม่ยกย่องและ
ไม่ให้เกียรติ”
“นังเอิบทำตัวเป็นจ่าฝูง มีเพียงนายเมฆที่
รับรู้ว่าความจริง ฉันยังไม่ทันได้เป็นอย่างที่พวกมันพากันประณามฉัน”
“สันดานดิบสันดานมืดของมนุษย์ขอรับ
มันอิจฉาผู้อื่นเสมอ กระผมสาบานว่าจะปกป้อง
คุณผู้หญิง จะผดุงไว้ซึ่งความสุขของคุณผู้หญิง จะไม่ให้ผู้ใดมาทำร้ายทำลายคุณผู้หญิงขอรับ”
“ขอบใจมาก”
“บุญคุณที่ช่วยชีวิตให้ที่อยู่ที่กินกับสำลีคนนี้ ขอเพียงคุณผู้หญิงให้ความไว้วางใจ มั่นใจ ไอ้สำลีขอมอบความซื่อสัตย์ไปตราบวันสิ้นลมหายใจ”
เดือนดาราจัดแจงให้สำลีมาอยู่ที่เรือนเล็ก
หลังเรือนของตน พริ้งอดกังวลไม่ได้เพราะท่าทีของ
ชายชราน่ากลัว เหมือนผีมากกว่าเหมือนคน กระนั้นเรื่องสำลีก็ไม่น่ากังวลเท่าเรื่องพลอยที่นางเอิบเตรียมให้ทำงานแทนดาวเรือง
จบคำบอกเล่าของพริ้ง เดือนดาราก็คว้าของใกล้ตัวปาใส่ ตวาดลั่น
“ทำไมแกไม่รีบบอก!”
“คุณผู้หญิงไม่เปิดโอกาสให้ฟ้องนี่เจ้าคะ แล้วคุณผู้หญิงคิดอ่านประการใดเจ้าคะ พริ้งห่วงคุณผู้หญิงนะเจ้าคะ”
“แกไม่ต้องมารู้มาห่วงฉัน ฉันคือฉัน...ฉันแก้ปัญหาของฉันเองได้แน่นอน”
“จริงหรือเจ้าคะ เก่งจริงๆเจ้าค่ะ ความจริงการที่พริ้งสอดสะเออะเพราะหวังดีนะเจ้าคะ”
“แต่ถ้าแกอยากจะสะเออะสอดรู้สอดเห็นเฉพาะเรื่องที่ไม่ใช่ของฉัน แกก็ทำไปเถิด ฉันไม่ห้ามแกแล้ว ขอบใจที่หวังดีกับฉัน จำไว้...ถ้าวันใดที่แกสอดรู้เรื่องของฉัน ฉันไม่เลี้ยงแกแน่!”
“รับรองเจ้าค่ะ”
พริ้งรีบทำตามคำสั่งหลังจากนั้น โดยมีสำลีคอยสังเกตการณ์ช่วยห่างๆ ทั้งแอบฟังนางเอิบจนรู้ว่านายอ่ำจะไปรับพลอยมาทำงานแทนดาวเรืองใน
อีกไม่กี่วัน
ooooooo










