ตอนที่ 3
เจ๊นีเซ็งมาก เดาออกว่ากำลังจะโดนเบี้ยวหนี้แน่นอน แต่แล้วเจ๊ก็หาทางออกบอกว่าไม่มีเงินสดไม่เป็นไร เจ๊เอาเป็นของก็แล้วกัน พูดพลางชี้มือไปที่เครื่องซักผ้า
ลินดาแหวทันที
“ไม่ได้หรอก ซื้อมาตั้งแพง”
“ตอนนั้นแพง แต่ตอนนี้มันเก่าแล้วค่ะคุณนาย ถ้าขายคงได้ไม่เกินห้าพันหรอก เอาเครื่องซักผ้าเนี่ยเจ๊ขาดทุนนะ”
วาริชตัดรำคาญ ตอบตกลงแต่ต้องขนเอาไปเอง แล้วถือว่าหมดหนี้หมดสินกัน เจ๊นีขาดทุนแต่รับได้ รีบเรียกคนงานของตนเข้ามาขนเครื่องซักผ้าไปใส่รถกระบะ ลินดาเบะปากนินทาไล่หลัง
“ตอนอยู่ละก็...คุณนายคะคุณนายขา จะเอาอะไรก็หยิบไปเลย พอรู้ว่าจะย้ายก็รีบมาทวงเงินเชียว”
“ก็บอกเธอแล้วว่าให้เพลาๆมือหน่อย เห็นมั้ยเป็นหนี้ตั้งหมื่นสาม”
“หนี้หมื่นสามน่ะมันเหล้าฝรั่งทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับฉัน คอยดูเหอะให้เครื่องซักผ้ามันไป ต่อไปก็ซักมือเอาเองแล้วกัน” ลินดากระแทกเสียงใส่สามีแล้วเดินขึ้นบ้านไปด้วยความไม่พอใจ
ooooooo
ผ่านไปสักพัก พิทยาธรขับรถมาจอดแถวบ้านพักตำรวจโดยมีใหญ่ซ้อนท้าย สองคนเห็นวาริชกำลังเตรียมขนย้าย ใหญ่จำสารวัตรคนเก่าได้รีบเดินเข้าไปทัก โดยที่พิทยาธรยืนรออยู่ห่างๆ
วาริชกำลังอารมณ์ไม่ดีเพราะเพิ่งโดนทวงหนี้หยกๆ จึงพูดจาไม่ดีกับใหญ่เพราะคิดว่าเขามาเร่งให้ย้ายออก
“ผมยังเก็บของไม่เสร็จ แต่ก็จะตามกำหนดนั่นแหละ คุณจะมาเมื่อไหร่”
“ผมยังไม่กำหนดหรอกครับ เชิญสารวัตรตามสบายเถอะครับ รวมทั้งเรื่องรับส่งงานด้วย”
ใหญ่ได้กลิ่นห้องน้ำจึงทำจมูกฟุดฟิดพลางหันซ้ายขวามองหาที่มาของกลิ่น วาริชเห็นแล้วยิ่งหงุดหงิด
“บ้านนี้ห้องน้ำชำรุด ส้วมเต็ม ยังเบิกค่าซ่อมไม่ได้ อาบน้ำได้ แต่ถ้าจะเข้าส้วมต้องไปเข้าที่โรงพัก”
“อ๋อครับ”
“จะเอาครอบครัวมาอยู่ด้วยหรือเปล่าล่ะ”
“มาครับ ผมกับภรรยามีกันแค่สองคน ยังไม่มีลูก”
พูดถึงลูกปุ๊บ ลูกสาววัยรุ่นของสารวัตรวาริชชื่อปักเป้าท่าทางก๋ากั่นเดินลงมาจากบ้านพอดี และได้ยินเสียงลินดาด่าตามหลังลูกที่ขี้เกียจไม่ช่วยเก็บข้าวของ ปักเป้าไม่สนใจเสียงด่าของแม่ ถามพ่อว่าแม่หงุดหงิดเรื่องอะไร วาริชอายสารวัตรคนใหม่ ไม่ตอบคำถามลูกแต่บอกให้ขึ้นไปช่วยแม่เก็บของ
“ก็มาด่าหนูก่อน หนูไม่ช่วยหรอก”
“ขึ้นไปช่วยแม่เดี๋ยวนี้” วาริชดุเสียงดัง แต่ลูกสาวยังลอยหน้าไม่กลัว ใหญ่รู้สึกว่าไม่ควรอยู่ตรงนี้จึงขอตัว
“ผมไปก่อนนะครับ ตามสบายครับ ไม่ต้องรีบ”
ใหญ่เดินออกมา ปักเป้ามองตามด้วยความเข้าใจผิด พูดโพล่งด้วยน้ำเสียงเกินเด็ก
“ใครเนี่ย คงเป็นเจ้าหนี้ แหม...พอรู้ว่าจะย้ายก็มากันไม่ซ้ำหน้าเลยนะ ตอนที่พ่อฉันอยู่...ทำหงอ”










