ตอนที่ 11
ใหญ่ตอกกลับทำให้อเนกและทรัพย์อนันต์เริ่มโกรธ สองฝ่ายโต้เถียงกันไปมา
“แต่ภายใต้กฎหมายทุกคนมีสิทธิ์เท่ากัน คุณจะเลือกปฏิบัติเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้”
“แต่ถ้าเราปล่อยให้เกิดปัญหาโดยไม่ทำอะไร ความขัดแย้งก็จะรุนแรงยิ่งกว่านี้ คดีฆ่าคนตายก็จะมากขึ้น และผมเชื่อว่าอีกไม่นานชาวไร่ชาวนาที่โดนบีบบังคับให้ขายที่ก็จะรวมตัวกันตอบโต้โดยใช้กำลังรุนแรง”
“ถ้ามีรุนแรง คุณก็ต้องระงับเหตุ การฆ่ากันตายเป็นความผิดทางอาญา ถ้าคุณปล่อยให้เขาฆ่ากัน คุณก็มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานแล้วไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย”
“ผู้การพูดเรื่องนี้มาก็ดีเหมือนกันครับ ได้ข่าวว่าที่พระลานน่ะเต็มไปด้วยคดีอุกฉกรรจ์ แต่แว่วมาว่ายังไม่คืบหน้าไปถึงไหนเลยนะครับ” ทรัพย์อนันต์ชงเรื่อง ทำให้อเนกได้ช่องเล่นงานใหญ่อีก
“ถ้างั้นพรุ่งนี้ 9 โมงตรง ผมขอสั่งให้คุณนำสำนวนการสอบสวนคดีอุกฉกรรจ์ทั้งหมดที่ยังคั่งค้างมาที่สำนักงานให้ผมพิจารณา และถ้ามีหลักฐานปรากฏว่าคุณบกพร่อง ผมจะพิจารณาโทษคุณตามระเบียบ”
อเนกกระหยิ่มย่ามใจที่หาช่องเล่นงานใหญ่ได้ ขณะที่ใหญ่ยังไม่ลืมประเด็นที่กำลังพูด
“แล้วกรณีพิพาทเรื่องที่ดินที่ผมเสนอเมื่อสักครู่ล่ะครับ ท่านหัวหน้าจะให้ปฏิบัติยังไง ผมขอรับนโยบายด้วยครับ”
เหมือนเอาน้ำมันราดกองเพลิง! อเนกโกรธจนฟิวส์ขาด เพราะแทนที่ใหญ่จะหยุดเรื่องที่ดินแต่กลับไม่ยอมเลิกรา
“โว้ย!! พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือยังไง เรื่องมันควรจะจบไปได้แล้ว ก็ปล่อยให้มันพิพาทกันไปซี่ โจรกับโจรทะเลาะกัน คุณเป็นตำรวจจะไปเป็นกรรมการได้ยังไงวะ”
ทุกคนในห้องประชุมเงียบกริบ ก้มหน้าไม่กล้าสบตา ยกเว้นใหญ่ที่ยังคงนิ่งทะนง อเนกมองไปรอบๆแล้วเริ่มปรับอารมณ์พยายามข่มใจให้เป็นปกติ เอ่ยเสียงเรียบว่า
“ผมไม่ใช่เป็นคนไม่มีเหตุผล เรื่องที่ดินเนี่ยคู่กรณีเขาเจรจาต่อรองกัน บางทีก็อาจมีรุนแรงกันบ้าง แต่ไม่นานพวกเขาก็จะตกลงกันได้ ไม่มีปัญหา แล้วเราจะไปยุ่งเรื่องของเขาทำไม หรือว่าใครมีหลักฐานว่ามีการใช้กำลังบังคับข่มขู่ให้ขายที่ดินบ้าง”
อเนกพูดนิ่มๆแต่ความจริงท้าทายเพราะมั่นใจว่าเรื่องแบบนี้หาหลักฐานยาก แต่แล้วทันใดนั้นเองนรินทร์เดินเข้ามาบอกว่าตนมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่แม่ตนถ่ายไว้










