สารวัตรใหญ่
ตอนที่ 11
“แล้วป้าแกเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“แกปลอดภัยดี แต่บ้านโดนไฟไหม้ไปบางส่วน วันนี้มีประชุมกับผู้ใหญ่ ผมคงต้องไปขอแนวทางในการแก้ไขเรื่องนี้”
“ค่ะ ยังไงวันนี้คำแพงจะลองไปเยี่ยมป้าสำอางดู”
ใหญ่พยักหน้าแล้วจูบลาเมียรักออกไปทำงาน
ooooooo
พิทยาธรรักษาตัวที่โรงพยาบาล หลังผ่าตัดเขายังไม่ฟื้น ซึ่งหมอบอกมัทนีที่คอยเฝ้าอยู่ไม่ห่างว่าคนไข้เสียเลือดมาก แต่ตอนนี้ให้เลือดไปแล้วร่างกายจะค่อยๆฟื้นตัว
“อีกนานไหมคะกว่าจะกลับมาเป็นปกติ”
“ช่วงนี้คนไข้จะยังไม่ได้สติ อาจต้องนอนพักที่โรงพยาบาลนานหน่อย”
มัทนีขยับมานั่งข้างเตียงหลังจากหมอกับพยาบาลออกไปแล้ว เธอภาวนาให้พิทยาธรฟื้นเร็วๆ แต่จู่ๆก็ได้ ยินเสียงเขาเพ้อเรียกชื่อคำแพงออกมา...
ทางด้านใหญ่ที่ต้องเข้าประชุมกับผู้หลักผู้ใหญ่และตำรวจจากหลายโรงพักในจังหวัด เมื่อมาถึงหน้าห้องประชุมเขาพบก้องภพเป็นคนแรก
“สวัสดีครับสารวัตร พอดีวันนี้ผมมาเข้าเวรดูแลความปลอดภัยของการประชุมครับผม”
“ตำรวจพระลานที่มามีใครบ้าง”
ดาบศรีกับจ่าประณตเดินเข้ามาทำความเคารพใหญ่พอดี ครั้นถึงเวลาเข้าประชุมใหญ่เข้าไปในห้อง ส่วนลูกน้องทั้งสามคนคอยดูแลความเรียบร้อยด้านนอกร่วมกับตำรวจท้องที่อีกหลายคน หนึ่งในนี้มีดาบนรินทร์รวมอยู่ด้วย
ดาบนรินทร์มาช้าเพราะเมื่อคืนที่บ้านไฟไหม้ เมื่อเขารู้ว่าสารวัตรใหญ่พูดเรื่องนี้ในที่ประชุมก็เลียบเคียงเข้าไปฟังอยู่เงียบๆมุมหนึ่ง
“นี่เป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆเมื่อคืน และผมเชื่อว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เชื่อว่าเป็นการจงใจเผาเพื่อบีบบังคับให้เจ้าของที่ดินขายที่ให้กับผู้มีอิทธิพล เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นมาหลายสิบปี และไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะที่พระลาน แต่เป็นปัญหาของเมืองไทย ทั้งประเทศ เกษตรกรต่างก็ถูกข่มขู่ บีบบังคับ และต้องยอมขายที่ดินให้ผู้มีอิทธิพลด้วยความจำใจ”
อเนกหมั่นไส้ใหญ่จึงแกล้งชักใบให้เรือเสีย “เดี๋ยวนะ คุณมีหลักฐานหรือเปล่าที่ว่าเกษตรกรโดนบีบ ลองมองอีกมุม เขาอาจจะอยากเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืนบ้างก็ได้”
“แต่ผมมีหลักฐานเป็นคำร้องทุกข์ของเกษตรกร 96 รายล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องถูกข่มขู่บังคับให้ขายที่ดินทั้งนั้น”
“สารวัตรใช้คำว่าขายมาหลายครั้งแล้วนะ เกษตรกรของคุณเนี่ยเป็นเจ้าของที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายจริงหรือเปล่า” ทรัพย์อนันต์ยิ้มเจ้าเล่ห์เพราะนี่คือการจี้ตรงจุด ที่สุด อเนกสะใจถล่มซ้ำ
“ใช่...รู้หรือเปล่าที่ดินในพระลานน่ะอยู่ในเขตป่าสงวนกันทั้งนั้น”
“ผมทราบครับ รู้แม้กระทั่งว่าที่ดินของสถานีตำรวจพระลานและที่ว่าการอำเภอก็อยู่ในเขตป่าสงวนเช่นกัน ถ้าจะอ้างเรื่องกฎหมายก็ไม่มีใครมีสิทธิ์กันทั้งนั้นแหละครับ แต่อย่าลืมสิครับว่าชาวบ้านอยู่ในที่ดินเหล่านั้นมาก่อนการจะมีการประกาศเขตป่าสงวน”
