ตอนที่ 1
“ผมได้ยินว่าชื่อใหญ่ครับ พันตำรวจตรีใหญ่ เวโรจน์ ย้ายสังกัดมาจาก ตชด. คนที่เป็นข่าวเรื่องบุกทลายแหล่งผลิตยาเสพติดนั่นแหละครับ”
วาริชพยักหน้าแล้วหันไปเก็บของต่อ ส่วนพิทยาธรที่ขุ่นมัวออกมาไม่พูดไม่จากับใคร สองจ่าเห็นสีหน้าท่าทางก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
“เห็นมั้ย...ผมว่าแล้ว”
“ความจริงก็น่าเห็นใจหมวดแกนะ แกเป็นคนตั้งใจทำงาน”
“ตั้งใจทำงานแต่ดันไม่รู้เหนือรู้ใต้ มันก็ต้องเหนื่อยฟรีแบบนี้แหละ” จ่าประณตยิ้มเหยียดเนื่องจากไม่ค่อยชอบเจ้านายเด็กกว่าอยู่แล้วเลยสะใจลึกๆ
ooooooo
ผ่านไปไม่นาน...โจ ปืน เบี้ยว สามนักเลงคนสนิทของผู้มีอิทธิพลก็ชักแถวนักพนันออกจากห้องขัง เดินผ่านหน้าพิทยาธรซึ่งยืนมองด้วยความแค้นใจอยู่มุมหนึ่ง
“ไงหมวด...ให้มันรู้ซะบ้างนะว่าใครเป็นใคร” โจพูดแล้วหันมาหัวเราะกับพรรคพวกก่อนที่ทั้งหมดจะพากันออกจากโรงพัก พิทยาธรโกรธมากทำท่าจะไปต่อยหน้า แต่กอบเกียรติมารั้งไว้ บอกให้ใจเย็น
พิทยาธรหงุดหงิดที่ทำอะไรไม่ได้สักอย่างจึงเดินหนีไป บุญเชิดมองอยู่ตลอดขยับเข้ามาหากอบเกียรติ
“พวกนายร้อยจบใหม่ก็ไฟแรงมากหน่อย ผมว่าอย่างงี้คงอยู่พระลานได้ไม่นานหรอกครับ”
“นั่นสิจ่า ยังไงจ่าก็ช่วยเตือนๆเขาหน่อยนะ”
“จ่าจะไปเตือนหมวดได้ยังไงครับรอง ไม่เอาหรอก ผมไม่ยุ่ง...คิดมากปวดหัว ขี้เกียจคิด หาเหล้ากินดีกว่า”
“แต่วันเลยนะจ่า”
“ผมออกเวรแล้ว” บุญเชิดผละไปอย่างเร็ว ท่าทางเปรี้ยวปากประสาคนติดเหล้าที่ต้องกินแทบทุกวัน
ฝ่ายพิทยาธรที่ไม่สบอารมณ์เอามากๆ เขาเปลี่ยนชุดตำรวจออกแล้วขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามถนนเพื่อผ่อนคลาย แต่พอถึงสี่แยกถนนลูกรังขณะรถของเขากำลังจะแล่นผ่านไปนั้น จู่ๆมีรถซาเล้งบรรทุกผักแล่นตัดหน้าทำให้หมวดหนุ่มต้องเบรกกะทันหันจนรถแฉลบลงข้างทาง เช่นเดียวกับรถซาเล้งก็เอียงกระเท่เร่อยู่ไม่ไกล
พิทยาธรลุกขึ้นปัดฝุ่นที่เสื้อผ้า แต่คู่กรณียังนอนคลุกฝุ่นลุกไม่ไหว เขาเป็นห่วงกลัวคู่กรณีจะตายจึงรีบวิ่งเข้าไปหา ถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า แต่เธอกลับนอนหลับตาท่องพุทโธ ที่สำคัญเธอหัวโล้นคล้ายแม่ชี
“พุทโธ...หัวโล้นๆแบบนี้สงสัยเป็นแม่ชี แย่แล้วเรา” พิทยาธรกลัวบาปที่ทำให้แม่ชีได้รับบาดเจ็บ รีบพนมมือไหว้ “ผมขอขมานะครับแม่ชี มันเป็นอุบัติเหตุ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” ว่าแล้วเขาท่องนะโมสามจบ
มัทนีลืมตาทันที ลุกขึ้นมานั่งมองงงๆ ถามว่าทำอะไร เขาบอกว่าท่องบทขอขมาพระรัตนตรัยแถมยังเรียกเธอว่าแม่ชี มัทนีอึ้งเหวอก่อนจะโวยวาย
“ชีเชออะไรกัน ฉันสึกแล้ว”
“สึกแล้ว?”
“ใช่ เป็นคนธรรมดาแล้ว”










