ตอนที่ 12
“ก็ไม่ทราบได้ครับ ท่านระบุเอาไว้อย่างนี้”
“อ่านใหม่อีกทีช้าๆชัดๆ ให้พวกเขาฟังอีกทีซิคุณทนาย”
“ครับ...บ้านราชไมตรี เงินสดและทองคำทั้งหมดยกให้เป็นของนางสาวกัณหา ราชไมตรี ในฐานะที่เป็นลูกสาวที่คอยดูแลข้าพเจ้าอย่างใกล้ชิดมาเป็นเวลานาน ไร่ราชไมตรีและโรงงานผลิตมันสำปะหลังเป็นของนางสาวเพ็ญลักษณ์ ราชไมตรี...”
“และสำหรับนางสาวปัทมา ราชไมตรี นางสาวสินี ราชไมตรี ข้าพเจ้าขอมอบสิทธิ์ให้กับนางสาวกัณหา ราชไมตรี ในการจัดสรรเงินสดให้ตามสมควร สำหรับนายวิสุทธิ์ นายวิกรม และนายวิเศษ ราชไมตรี ลูกชายของข้าพเจ้านั้น ทุกคนต่างมีหน้าที่การงานและฐานะที่มั่นคงจึงขอละเว้น รวมไปถึงทายาททุกคนอันเกิดจากบุตรชายทั้งสามคนนั้นด้วย”
ทุกคนอึ้งกันไปหมด กัณหายิ้มพอใจ ทนายย้ำว่ามีลายมือชื่อคุณหลวงและพยานลงไว้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แล้วส่งพินัยกรรมให้ลูกหลานของหลวงราชไมตรีดู เสร็จแล้วเก็บกลับมาพร้อมบอกว่าตนจะรีบดำเนินการตามที่พินัยกรรมระบุไว้
พอลับหลังทนายที่เพิ่งลุกออกไป วิภาดาพูดทันทีว่าตนไม่เชื่อ อากัณปลอมพินัยกรรมหรือเปล่า
“กล้าดียังไงมากล่าวหาฉัน ระวังเถอะ จะแจ้งความหมิ่นประมาท เป็นหลานฉันก็ไม่ละเว้น อุตส่าห์เมตตาช่วยคุณพ่อเลี้ยงดูแท้ๆ”
“วิก็อุตส่าห์ช่วยอากัณแกล้ง...”
“หยุดพูดได้แล้ว แล้วพวกแกก็รีบๆเก็บเสื้อผ้ากลับไปอยู่กับพ่อแม่ เพราะที่นี่คือบ้านฉัน ไม่ใช่สถานสงเคราะห์อีกต่อไปแล้ว”
วิภาดาโกรธมาก แฉกัณหาอย่างหมดเปลือก “อากัณเป็นคนเสี้ยมให้วิอิจฉาและเกลียดต่าย ให้คอยจับตา จับผิด ทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ต่ายได้หน้ากับคุณปู่”
“ยัยวิ! ฉันบอกให้หยุด” กัณหาตวาดแว้ด แต่เพ็ญลักษณ์บอกให้วิภาดาพูดต่อไป
“ที่ต่ายหายตัวไปในงานถ่ายทอดสดก็เป็นฝีมือของวิที่แกล้งหลอกต่าย เอาตัวไปขังไว้ในห้องเก็บของ เพราะอากัณสั่งให้วิทำ”
ทุกคนคาดไม่ถึง ปัทมาถามวิภาดาว่าจริงหรือ เจ้าตัวกำลังจะตอบแต่โดนกัณหาชิงพูดเสียก่อน
“มันโกหกน่ะสิ ถ้าเป็นเรื่องจริงทำไมยัยต่ายไม่เห็นพูดอะไรสักคำ”
มิรันตีทนไม่ไหวพูดความจริงออกมา “ก็เพราะต่ายไม่อยากเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือน่ะสิคะ มิเป็นคนไปช่วยต่ายออกมาจากห้องเก็บของเอง ต่ายขอร้องไม่ให้มิพูด เพราะไม่อยากให้ค่ากับความเกลียดชังของคนที่มีความคิดสกปรก และที่สำคัญไม่อยากทำให้คุณปู่ไม่สบายใจ”
“วิสาบานได้ว่าอากัณเป็นคนบอกให้วิทำ”
เมื่อจนมุมแทนที่กัณหาจะสลด กลับลอยหน้าลอยตายอมรับและถามว่าใครจะทำอะไรตน
“เล็กไม่เคยคิดเลยว่าพี่กัณจะเห็นแก่ตัวจน
มองข้ามคำว่ามนุษยธรรมได้ถึงขนาดนี้”
“นี่หลานแท้ๆที่มีสายเลือดเดียวกัน พี่กัณยังทำได้ลงคอ”
“ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าพินัยกรรมฉบับนั้นจะเป็นของปลอม และเป็นฝีมือพี่กัณ”
น้องทั้งสามคนรุมตำหนิ กัณหาโกรธจนปากสั่น แต่ไม่ยอมแพ้










