ตอนที่ 12
มธุรสมารับพิมพ์รสที่โรงพยาบาล เครียดบ่นว่านิธิมาเห็นผู้ชายดีกว่าครอบครัว ไม่รู้จะบอกเดชอย่างไรดี พิมพ์รสดีใจที่อาเลือกแล้ว มธุรสแหวใส่ว่าโง่ที่เลือกผู้ชายมีแต่ตัว
“เปล่า แต่อานิเลือกที่จะไม่อยู่ในอาณัติของคุณแม่ต่างหาก”
มธุรสปรี๊ดถลึงตาใส่บ่นว่า “ฉันเลี้ยงมันมาสิบกว่าปี แค่นี้มันยังตอบแทนฉันไม่ได้ แกก็เหมือนกัน ถ้าฉันไม่บังคับ จะมีวาสนาได้เป็นสะใภ้เศรษฐีไหม คงหาทางรีดลูกไปตั้งแต่รู้ว่าท้องแล้ว”
ชัยพรเปิดประตูเข้ามา มธุรสเปลี่ยนอารมณ์ทันที ยิ้มร่าต้อนรับแล้วถามหาเดช เขาบอกว่าพ่อง่วนกับการเตรียมห้องให้นิธิมา มธุรสหน้าเจื่อนบอกช่วงนี้นิธิมาขอเคลียร์งานสองสามวัน
ชัยพรเข้าโอบพิมพ์รสแล้วพูดว่า “แต่ผมก็ไม่อยากให้คุณนิไปอยู่บ้านผมหรอกนะครับ ขืนไปอานิก็ต้องนอนห้องเดียวกับพิมพ์ ผมก็ไม่ได้กอดพิมพ์กับลูกสิครับ”
“แหม...ขอให้หวานแบบนี้ไปตลอดนะจ๊ะ” มธุรสยิ้มออก สีหน้าสดใสขึ้น
ooooooo
ขณะพิมพ์รสอุ้มลูกเข้าบ้านโดยมีชัยพรประคองข้างๆ เดชเข้าต้อนรับขออุ้มหลานมาชื่นชม ชัยพรบอกให้พ่อล้างมือก่อน เขาหัวเราะที่ลูกชายเป็นห่วงเด็กน้อย มธุรสอดปลื้มไม่ได้
“บุญของเด็กนะคะ ปู่ก็รัก ยายก็หลง เกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทองเลย หลานอุ้ย...”
“ถ้าพ่อมันทำตัวดีๆ ผมก็จะให้ทุกอย่าง หลานชายคนแรกของผมไม่รักได้ไง แต่ถ้าพ่อมันยังไม่คิดกลับตัวเป็นคนดี ก็อย่าหวัง...”
“ยังไงดิฉันก็ขอฝากยัยพิมพ์ให้เป็นสะใภ้คุณเดชนะคะ เมตตาแกมากๆ แกจะได้เลี้ยงหลานปู่ดีๆ”
“หนูพิมพ์ยังไม่เคยเรียกผมว่าพ่อเลย จะให้ผมทำยังไง”
มธุรสตกใจหยิกแขนลูกสาวเบาๆ พิมพ์รสบอกไม่แน่ใจว่าชัยพรจะรับตนกับลูก เดชหัวเราะแล้วหอมแก้มตาอุ้ย พลันเด็กร้อง พิมพ์รสจึงขอเอาไปกินนม เดชได้ยินเธอเรียกตนว่าพ่อครั้งแรก รู้สึกถูกใจมาก
ถวิลช่วยพิมพ์รสดูแลลูก ชัยพรมีสีหน้าปลาบปลื้มและดูห่วงใยลูกเมีย
“ชื่นใจทั้งแม่ทั้งลูกเลย รู้ไหม ผมดีใจมากเลยที่ได้ลูกชาย คุณพ่อยิ่งดีใจ พิมพ์เห็นรึเปล่า”
“งั้นชัยก็ต้องทำตัวดีๆ ให้สมกับที่ท่านรักหลานแล้วก็อยากเห็นชัยกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี”
ชัยพรรับคำ แล้วออดอ้อนอยากมีลูกคนที่สอง แต่พิมพ์รสโวย
“จะบ้าเหรอ...อีกหลายเดือนแหละ แล้วอย่าไปยุ่งกับคนอื่นล่ะ พิมพ์เอาตายเลย”
ชัยพรกอดพิมพ์รสชอบใจที่เธอหึง ดูมีเสน่ห์ แต่ก็กระเซ้าว่าอย่าหึงมาก...
มธุรสนั่งดื่มไวน์กับเดช เธอแก้ตัวว่าที่นิธิมาไม่ได้มาเพราะงานยุ่งมาก เดชดักคอคงไม่ได้ไปกับดัมพ์ เธอปฏิเสธพัลวัน บอกนิธิมาทำงานจนไม่มีเวลาเงยหน้าเลย กลับบ้านก็ต้องดูแลหลานกับตน แถมเกียวกับแม่เข้ามาอยู่ในบ้านอีก ดูแล้วน่าสงสารมาก เดชโพล่งขึ้นว่า










