ตอนที่ 11
...โมนาเดินหน้าเครียดเข้ามาเพราะเกรงเกอร์ทรู้ดจะฟ้องอะไร ทำทีทักทายทาฮีร่าแต่สายตามองเกอร์ทรู้ดแบบจะเอาเรื่อง ชิคเก้นขอน้ำค้างจากเกอร์ทรู้ด โมนารีบตัดบทบอกน้ำค้างที่นี่เก็บมานานไม่บริสุทธิ์จริง ให้เอาของตนซึ่งเก็บตอนเช้า ทาฮีร่าปลาบปลื้มกับว่าที่หลานสะใภ้ที่เอื้อเฟื้อ เกอร์ทรู้ดหลบตาด้วยความกลัว
โมนาพาทาฮีร่ากับชิคเก้นมาที่บ้านเพื่อเอาน้ำค้างให้ แล้วทาฮีร่าก็นั่งชื่นชมความเหมาะสมของโมนากับโรม ชิคเก้นท้วงว่า ภายนอกดูเหมาะสมแต่ภายในอาจไม่คู่ควร
โมนาเดินเข้ามาในห้องเข่นเขี้ยว “เรื่องอะไรจะให้น้ำค้าง! เอาน้ำฝนไปละกัน ใช้น้ำค้างความจำจะกลับมาค้างอยู่ในหัว แต่หากใช้น้ำฝน น้ำฝนจะชะล้างไปหมด”
โมนาเอาน้ำฝนเทใส่ขวดแก้วผลึกสวยงาม แล้วนำออกมาให้ทาฮีร่า สาธยายว่าเป็นน้ำค้างบนกลีบกุหลาบเพิ่งเก็บเมื่อเช้าฟังดูเลอค่า ชิคเก้นถอนใจอยากจะถามแต่โมนาชิงพูดก่อน
“ชิคเก้นจ๋า...บางทีเราก็ไม่จำเป็นต้องพูดทุกสิ่งที่เรารู้ออกมาทั้งหมดหรอก จริงไหม”
ชิคเก้นจะตอบ ทาฮีร่าตัดบทเสียก่อนว่าชิคเก้นชอบพูดพล่าม ให้โมนาช่วยอบรมให้สงบปากบ้าง โมนายิ้มเหยียดยินดีอย่างยิ่ง ชิคเก้นขยาดขอกลับไปกับทาฮีร่า แต่โมนารีบบอกว่าอบรมไม่นานก็เห็นผล...ทาฮีร่ายิ้มปลื้มกลับไปตนเดียว โมนาหันมาเล่นงานชิคเก้นทันที
“แกเล่าเรื่องของฉันให้ทาฮีร่าฟังใช่ไหม! ไอ้แมวปากสว่าง” โมนาบีบคอชิคเก้น
“เล่า...เล่าแต่ไม่หมด แล้วคุณยายก็ลืม...ลืม”
โมนาเสียงกร้าวสั่งห้ามเล่า และกำชับให้ชิคเก้นเล่าทุกเรื่องที่รู้มาแก่ตนแทน ไม่อย่างงั้นโดนฆ่า พูดจบก็เหวี่ยงชิคเก้นกระแทกพื้น ชิคเก้นทั้งไอทั้งเจ็บ โมนาหายตัววับไป ชิคเก้นพึมพำ
“อูย...นี่เหรอคุณหลานสะใภ้ผู้แสนดีของคุณยายทาฮีร่า มีหวังซวยยกบ้าน”
จากนั้นโมนารีบมาประชุมที่ห้องแล็บ ดร.พีทเรียกทุกคนมารวมกันเพื่อบอกเรื่องพ่อมดที่จับได้หนีไปตนจะสั่งลงโทษผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง คือจู๊ฟและอันโตนิโอ โดยให้ไปหารากไม้ในป่าเจ็ดวันเจ็ดคืน เพราะรู้ว่าทั้งสองกลัวผี
โมนาทำเป็นยกมือถามว่าพ่อมดตนนั้นมาจากไหน โรมมองโมนาอย่างสงสัย ดร.พีทเห็นสายตาจึงถามโรมรู้บ้างไหมเพราะเขาสู้กับแมทธิว โรมลุกขึ้นตอบว่าแมทธิวเป็นลูกหลานนักล่า
“แล้วทำไมไม่เล่าให้ ดร.พีทฟังก่อนหน้านี้”
“โรมเห็น ดร.พีทยุ่งๆอยู่ครับ อีกอย่าง ดร.พีทก็จับตัวเขาได้แล้ว...”
“แสดงถึงความปากหนัก ไม่รอบคอบ” ดร.พีทติง เดวิดยกมือขอพูด










