ตอนที่ 11
“คุณเป็นพ่อมด คุณต้องกำจัดศัตรูของพวกเราสิ ทุกคนในบ้านนี้เป็นนักล่า เป็นศัตรูของพวกเรา” มาริสาเดินเข้าหา แมทธิวยกมือกันแบบไม่รู้ตัว แสงจากมือปะทะมาริสากระเด็นไปกระแทกกำแพง ชิคเก้นตกตะลึง
มาริสาลุกขึ้นหัวเราะชอบใจ เพราะนั่นคือท่าบังคับของพ่อมดแม่มด บอกให้เขายอมรับเสียที ไม่เชื่อให้ถามชิคเก้น แล้วเธอก็หายตัวไป ชิคเก้นสะดุ้งอีกครั้ง...แมทธิว
งงว่าพูดถึงใคร แล้วเขาก็เดินมาส่องกระจก เห็นตัวเอง
อยู่ในชุดพ่อมดก็สะบัดเสื้อผ้าอย่างหงุดหงิด ชุดกลายเป็นชุดปกติ ชิคเก้นเห็นแล้วอึ้งหาจังหวะกระโดดหนีออกทางหน้าต่าง แมทธิวหันขวับมองไล่หลัง
ooooooo
ค่ำนั้นเดวิดจะกลับเข้าบ้านตลับ แต่ติดที่น้ำศักดิ์สิทธิ์เทไว้รอบบ้านทำให้เข้าไม่ได้ มาริสาโผล่มาเยาะหยัน แล้วโมนาก็ออกจากร่างมาริสา ปล่อยร่างนั้นนอนสลบกับพื้น เดวิดตำหนิที่เธอเข้าสิงร่างมาริสาบ่อยๆจะทำให้เธอเป็นบ้าได้ โมนายักไหล่ตอกกลับ
“อ้อ รู้เหมือนกันนี่ ทำไมถึงได้เกิดห่วงมันขึ้นมา”
“ฉันไม่ได้ห่วง ฉันเกลียดพวกมนุษย์”
“แต่นัยน์ตาเธอเมื่อกี้บอกว่าเป็นห่วง...ฉันไปล่ะ เธอก็ควรไปเหมือนกันเพราะแมทธิวกลับมาแล้ว...พ่อของเธอเป็นคนขอร้องให้ฉันไปช่วยแมทธิว” พูดจบโมนาขี่ไม้กวาดไป
เดวิดยังตกใจแต่ก็เป็นห่วงมาริสาที่นอนสลบไสลน่าสงสาร จึงอุ้มเธอไปนอนที่ม้ายาวหน้าตึกเล็ก ยืนมองสักครู่ก่อนจะขี่ไม้กวาดออกไป สักพักมาริสาฟื้นพยายามทบทวนเหตุการณ์ก่อนจะเคาะประตูขอจันนอนที่ตึกเล็กด้วยคน โดยอ้างว่าตัวเองละเมอเดินออกมา
ในขณะที่เดวิดกลับมาหานาดาล เห็นพ่อนอนนิ่งก็เข้าไปคุกเข่าข้างๆ นาดาลค่อยๆลืมตา เขาโล่งใจ ถามถึงที่โมนาบอกว่าพ่อให้เธอไปช่วยแมทธิว นาดาลตอบน้ำเสียงเยาะหยัน
“ใช่ แล้วเขาก็ทำสำเร็จ ไม่โง่เง่าล้มเหลวแบบแก!”
“ทำไมพ่อต้องพยายามช่วยแมทธิว มันเป็นใคร!”
“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่เกี่ยวกับแก”
เดวิดท้วงว่าตนเป็นลูก นาดาลยิ้มเหยียดไล่เขาออกไปอ้างจะนอน เดวิดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเดินเซ็งออกมาหน้าบ้าน เจอโมนาเหมือนรออยู่ เขายิ่งหงุดหงิดบอกให้เธอเลิกยุ่งกับตนเสียที
“คือฉันมาคิดๆดูแล้วฉันก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า ทำไมลุงนาดาลถึงเกลียดเธอซึ่งเป็นลูกแท้ๆ แต่กลับเป็นห่วงไอ้แมทธิวซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย” โมนาตอกย้ำให้เจ็บปวดยิ่งขึ้น
“บอกว่าอย่ามายุ่ง!”










