ตอนที่ 9
นิราศมารอลาพิกุลที่หน้าห้อง พูดอย่างรู้สึกผิดว่า
“ผมคิดเข้าข้างตัวเองว่าคุณรอผมโดยไม่ทันคิดว่าผมมารบกวนคุณ ที่แย่กว่านั้นคือ ผมทำตัวเป็นเจ้าของเรือนเสียเอง นึกจะมาก็มาโดยไม่ได้บอกกล่าวกันเสียก่อนทั้งที่เจ้าของเรือนยังยืนอยู่ตรงนี้ คุณทำให้ผมแน่ใจว่า เรือนนี้ไม่ใช่ของกำนัน ผมจะกลับไปหาทางทำให้เรือนหลังนี้กลับมาเป็นของคุณให้ได้”
นิราศเดินลงเรือนไป พิกุลน้ำตาตกเมื่อภาพในวันที่ลาจากกันหวนกลับมาอีกครั้ง...
คืนเดียวกัน สินธรกับอัปสรก็มาที่เรือน อัปสรถึงกับขนลุกเมื่อเห็นบรรยากาศบนเรือน สินธรเห็นแล้วขำเพราะอัปสรคุยไว้ว่าตนไม่กลัวผี สินธรสาดไฟฉายสำรวจไปทั่ว เห็นเงาแว้บๆ เพ่งมองก็ไม่เห็นอะไรจึงเดินไปดู
จางวางพ่วง เพียร สุด และอ่ำยืนมองอย่างมีความสุขที่เห็นทั้งสองกลับมาที่เรือนอีกครั้ง...
สินธรมาหาเอกสารชิ้นหนึ่ง อัปสรติงว่า “ถ้ากำนันจะโกงเอาเรือนนี้ไป เขาก็ต้องเผาเอกสารที่คุณหาอยู่ไปแล้ว จะเก็บไว้เป็นหลักฐานให้ย้อนเข้าตัวทำไม”
“ผมก็ต้องหาทุกที่แหละ ยังไงพระท่านก็ไม่เข้าข้างคนโกง มันต้องมีอะไรที่รอดหูรอดตาบ้างล่ะ”
อัปสรช่วยหาแต่ไม่เจออะไร สินธรเปิดประตูออกไป แต่แล้วก็ชะงักเมื่อเห็นลูกน้องกำนันมา คิดหาทางออกกัน จะโดดลงไปก็ขาหักแน่ พลันก็มีเสียงบอก “บันไดหลังเรือน” สินธรคิดว่าอัปสรพูดแต่เธอบอกว่าตนไม่ได้พูดอะไร สินธรคิดว่าตนคงหูแว่วไปเอง
ที่แท้เป็นเสียงอ่ำ เมื่อทั้งสองไปเปิดประตูหลังเรือนแสงจันทร์ก็ทอดลงมาที่บันไดเหมือนจะบอกทางให้
แต่ก่อนที่ทั้งสองจะไปถึงบันไดหลังเรือนก็ถูกลูกน้องกำนันเข้ามาดึงอัปสรไว้ สินธรต่อสู้ปกป้องอัปสร ลูกน้องกำนันจะรุมสินธร แต่จู่ๆพวกมันก็แตกกระจายกันออกไป เพราะถูกอ่ำกับสุดเล่นงานจนล้มกลิ้งไม่เป็นท่า
ในที่สุดสินธรก็พาอัปสรหนีไปได้ อัปสรหันมองไปที่เรือนเห็นสุดยืนพยักหน้าและยิ้มให้ อัปสรไม่เชื่อสายตา เขม้นมองปรากฏว่าภาพนั้นหายไปแล้ว สินธรจึงพาอัปสรหนีไปได้อย่างปลอดภัย
ooooooo










