ตอนที่ 5
“ช่วยอาจารย์ภาธรเหรอ” ชาดาเดินไปคุยไปจนมาถึงบันได ไม่ทันสังเกตเห็นผีเจ้าฟ้าทิพฉายหยุดอยู่ด้านหลัง มองเธอด้วยสายตาอาฆาตแค้นเพราะชาดาหน้าเหมือนนิ่ม นางสนมในชาติปางก่อนที่คิดจะแย่งออกญาพิชิตแสนพลไปจากตัวเอง ขณะที่ชาดาจะก้าวลงบันได มีเสียงเรียกปริตตาดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้ชาดาชักเท้ากลับเหมือนถูกรั้งตัวไว้ แก้วกาแฟหลุดจากมือตกพื้นไปด้านล่าง
“ตายแล้ว หกหมดเลยปริตตาอุตส่าห์ซื้อมาให้” ชาดาบ่นด้วยความเสียดาย ทินเทพก้าวมายืนข้างๆ
“อาจารย์มีเรื่องคุยกับน้องหนูเหรอครับ”
“ก็ชวนให้ไปฟิตเนสด้วยกันอีก แต่ปริตตาบอกไม่ว่างต้องช่วยงานอาจารย์ภาธร”
“พี่คิดว่าน้องหนูจะไปเยี่ยมคุณปู่” ทินเทพมองปริตตาอย่างตำหนิ เธอตอบเสียงห้วนว่ายังไม่ใช่วันนี้แล้วหันหลังเดินไปเลย ชาดาสงสัยโกรธอะไรกันอยู่หรือเปล่า วันนี้ปริตตาดูนิ่งๆไป ทินเทพมองตามเธอที่เดินจากไปอย่างสงสัย...
ขณะที่ทินเทพเริ่มตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับปริตตา ภาธรลืมตาขึ้นอีกครั้งพบว่าตัวเองกลับมาอยู่ที่ห้องสมุดอยู่ในท่าเดิมที่เอาแขนสองข้างกั้นรวิปรียาไว้ พึมพำว่าเธอเป็นนางทิพย์ใช่ไหม เธอถามประชดว่าเปิดใจแล้วใช่ไหม หรือแค่สงสัย เขาตัดพ้อจะยั่วโมโหกันไปถึงไหน
“ก็จนกว่าคุณจะยอมรับความคิดคนอื่น โดยเฉพาะความคิดของพ่อคุณ”
“ตอนนี้ตอบคำถามมาก่อน ผมอยากรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับตัวคุณ”
รวิปรียาตั้งข้อแม้หากอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับเธอก็ต้องถามเธอไม่ใช่ไปถามคนอื่น เขาอ้างที่ถามปริตตาก็เพราะทั้งคู่ติดต่อกันได้ไม่ใช่หรือ เธอติดต่อกับปริตตาไม่ได้อีกแล้วจนกว่าเขาจะเอาแหวนพญานาคกลับไปคืนที่หนองพราย เขาสงสัยว่าแหวนวงนี้มีอะไรกันแน่
“ฉันบอกทุกอย่างกับคุณไม่ได้ คุณต้องคิดต้องรู้ด้วยตัวเอง อย่าลืมภาธร รีบเอาแหวนกลับไปคืนที่หนองพราย ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป” สิ้นเสียง
รวิปรียา มีแสงสว่างวาบขึ้น ครั้นแสงจางเธอหายไปแล้ว ภาธรมองไปรอบๆเห็นแต่นักศึกษานั่งอ่านหนังสือเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แหวนจากหนองพราย” ภาธรพึมพำกับตัวเอง
ooooooo
ทินเทพนำข้อสงสัยในตัวปริตตาไปถามเพื่อนซี้ทั้งสองคนของเธอว่าเธอทำตัวแปลกๆบ้างไหม นะโมยอมรับว่าเธอดูแปลกไป ดุมาก ซีเรียส ไม่ขี้เล่นไม่หัวเราะเหมือนเคย ตนกับหว่าหวายังคิดว่าเป็นเพราะคุณตาของเธอไม่สบาย
“ปริตตามันเหมือนหยิ่งๆไม่ยอมให้เราแตะไม่ยอมให้ถูกตัว” หว่าหวาเสริม










