ตอนที่ 5
“รู้ตัวหรือไม่ เจ้ากำลังช่วยภาธรทุกอย่าง”
“รู้ แต่ไม่ใช่ เพราะเรื่องความรักของเขากับทิพฉาย เรากำลังช่วยภาธรให้รู้จักความรักความหวังดี ผู้ชายคนนั้น ภาธร คนที่ไม่มีหัวใจให้ครอบครัว เขาปฏิเสธทุกอย่างจากพ่อบังเกิดเกล้า เพราะทิฐิ คิดว่าพ่อทอดทิ้ง หมดรักในตัวแม่ ทั้งๆที่คุณตาห่วงเขามาก...มากเท่าชีวิต
นี่ต่างหาก กิเลสที่เราเรียนรู้จากมนุษย์ รักมากยึดเหนี่ยวมาก ย่อมทุกข์มาก”
สินีวาลีอยากรู้ว่ารวิปรียายอมฝ่าฝืนกฎยอมรับการลงโทษเพื่อช่วยมนุษย์พวกนั้นจริงหรือ เธอยอมรับว่าจริง จะให้เธอทิ้งคนที่ยึดเธอเป็นที่พึ่งได้อย่างไร นี่เป็นหน้าที่ของเทพต่อมนุษย์ไม่ใช่หรือ สินีวาลีเห็นความตั้งใจของรวิปรียาแล้วยอมแพ้ คลายห่วงที่พันธนาการเธอออก รวิปรียาสีหน้าเต็มไปด้วยคำถาม สินีวาลีเฉลยว่า
“องค์พระสุยามะรู้ว่าเจ้าจะต้องดื้อรั้นลงไปจนได้ ท่านจึงให้ข้ารั้งเจ้าไว้จนกว่าเจ้าจะมีเหตุผลมากกว่าความสนุกสนานตามนิสัยของเจ้า...ลงไปทำหน้าที่ของเทพเถอะรวิปรียา แต่จงระวัง ระลึกไว้กฎแห่งธรรมชาติเกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไปไม่มีใครหนีพ้น ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้”...
ค่ำแล้วตอนที่ภาธรขับรถมาจอดหน้าบ้านตัวเอง คนขับรถบ้านทรงศิริที่นั่งหลับอยู่ลุกพรวดขึ้นยืน ภาธรลงจากรถพลางเตือนปริตตาว่า อย่าลืมเรื่องที่รับปากจะติดต่อรวิปรียาให้แล้วขยับจะเข้าบ้าน ผีเจ้าฟ้าทิพฉายที่สิงร่างปริตตาทำทีถามว่ามีใครอีกไหมที่เขาอยากรู้จัก คนที่เขาคิดว่าเป็นพลังงานพิเศษไม่มีเลือดเนื้อจับต้องไม่ได้ เขาชมเปาะว่าอ่านใจเขาออก เขาอยากรู้จักผู้หญิงชื่อทิพฉายเจ้าของแหวนพญานาค
“อาจารย์จำชื่อเขาได้” ผีเจ้าฟ้าทิพฉายแอบยิ้มพอใจ
“แววตาเธอทำให้ผมเศร้าทำให้ผมคิดถึงอดีตบางอย่าง”...
ที่ห้องพักฟื้นผู้ป่วย ผกาห่มผ้าให้คุณหลวงไพรัชเสร็จ เดินมาหาทินเทพที่นอนหลับอยู่ที่เตียงญาติ เห็นสมุดบันทึกของคุณหลวงวางอยู่บนอก หยิบไปวางเหนือหัวนอนหลานชาย พลางหันมองไปทางคุณหลวง
“ขออย่าให้มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นกับปริตตาเลย”
ooooooo
อรณีรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนไปของลูกสาว ทั้งที่เคยตักบาตรเป็นประจำทุกวันไม่เคยขาด แต่วันนี้กลับเพิกเฉย เธอตักบาตรเสร็จก็เลยขึ้นไปดูที่ห้อง เจอลูกนั่งอ่านหนังสือประวัติศาสตร์อยุธยาเสียกรุงไปร้องไห้ไป ถามว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมอ่านหนังสือพวกนี้แล้วถึงร้องไห้
“ฉันแค่แสบตา”
“ฉัน!!” อรณีมองลูกสาวสีหน้าฉงน ผีเจ้าฟ้าทิพฉายในร่างปริตตารู้สึกตัวรีบเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองเป็นหนูเหมือนเดิม แล้วถามว่ามีอะไรกับหนูหรือเปล่า อรณีแค่จะมาถามว่าทำไมวันนี้ถึงไม่ลงไปตักบาตร เธออ้างตื่นสายลงไปไม่ทัน ท่านตำหนิลูกที่ตื่นสายทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อนแถมเมื่อคืนยังกลับบ้านดึกดื่นอีก










