ตอนที่ 13
ปวัตรบอกว่าตน แต่ตำรวจถือว่าทั้งสองสนิทกันเชื่อถือไม่ได้ ปวัตรจึงบอกว่ายังมีอีกคนที่เชื่อถือได้ ว่าแล้วมีนาเดินเข้ามายืนยันว่าวันที่ไตรภพตายเป็นวันเกิดตน และลวิตากับปวัตรฉลองวันเกิดอยู่กับตน ตำรวจอึ้ง...ทนายพาลวิตากลับอย่างง่ายดาย ทั้งลวิตาและปวัตรขอบคุณมีนา แล้วลวิตาก็พูดขึ้นว่าจะฟ้องกลับทั้งตำรวจและ
คนบงการ มีนาถามว่าใครคือคนบงการ ลวิตาชะงักปัดว่า
ไม่รู้ต้องรอสืบกันต่อไป...
เสี่ยมนูญได้รับรายงานว่าลูกสาวเป็นพยานว่าอยู่กับลวิตาในวันเกิดเหตุ เขาโมโหมาก พอมีนากลับมาจึงเผลอตวาดเธอ มีนาเอะใจถามพ่อรู้ได้อย่างไร หรือว่าพ่อเป็นคนใส่ร้ายลวิตา เสี่ยมนูญชะงักเบี่ยงเบนไปว่าไม่ชอบที่ลูกโกหกว่าไปหาหมอแต่แล้วกลับไปโรงพัก มีนาโต้
“คุณพ่อไม่ชอบให้มิ้นโกหก คุณพ่อก็อย่าโกหกมิ้นสิคะ คุณพ่อทำอะไรอยู่กันแน่ เลิกปิดหูปิดตามิ้นซะที มิ้นต้องการรู้ความจริงทั้งหมด คุณพ่อบอกมิ้นมาสิคะ บอกมา บอกสิ บอก...” ทันใดมีนาเกิดอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง เสี่ยมนูญตกใจเข้าประคองแต่เธอหมดสติไปทันที
เสี่ยมนูญรีบพาลูกสาวส่งโรงพยาบาล หมอตรวจเช็กแล้วรายงานว่า ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจเธอขาดเลือดแบบเฉียบพลัน น่าจะเกิดจากความเครียดบวกกับสุขภาพที่ไม่แข็งแรงประกอบกับโรคความดันสูงของเธอ...
เสี่ยมนูญเจ็บปวดใจพยายามเรียกลูกให้รู้สึกตัว
ooooooo
เย็นวันนั้น ที่เพนต์เฮาส์มีช่างแอร์มาทำการล้างแอร์ พนักงานพาไปส่งที่ห้องและปล่อยให้ทำงาน ช่างแอร์แอบติดบางอย่างบนแอร์แล้วกำลังจะกลับ...
เสี่ยมนูญเดินเข้ามาพร้อมพรรคพวก ช่างแอร์รีบขยับหมวกเดินก้มหน้าสวนออกไป ช่วงเวลานั้นเสี่ยเรียกช่างแอร์ให้หยุด
ช่างแอร์ชะงักตกใจมากยืนก้มหน้านิ่ง เสี่ยมนูญยื่นแบงก์พันให้บอกเป็นค่าเหนื่อยโดยไม่ติดใจสงสัยอะไร เขารับเงินแล้วรีบเดินไป
ในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ลวิตา ปวัตรและเอกนั่งอยู่ ช่างแอร์เดินเข้ามาแล้วถอดหมวกออก เผยให้เห็นว่าคือไตรภพ เขาบอกว่าได้ติดกล้องในเพนต์เฮาส์เรียบร้อยแล้ว ทุกคนยิ้มอย่างพอใจ...ก่อนหน้านี้วันที่เอกได้รับโทรศัพท์จากใครบางคนที่ทำให้ตกใจ รีบมาที่โรงแรมสองดาวที่ไตรภพซ่อนตัวอยู่ เห็นเขาถูกยิงกลางอกเนื้อตัวเปียกปอนก็ตกใจมากจะพาไปโรงพยาบาล










