ตอนที่ 14
เทวัตกับดาญ่าปล่อยให้วิจารณ์นั่งอยู่ที่ศาลาริมน้ำของวัด แล้วเดินเลี่ยงมายืนมองอยู่ห่างๆ ยิ่งได้เห็นแววตาที่แห้งแล้งลงทุกวันของท่าน เธอยิ่งสงสารจับใจ เฝ้ารอคอยลูกสาวมายี่สิบกว่าปีไม่เจอสักทีแล้วยังต้องมาเสียลูกชายไปอีก ใจของท่านต้องปวดร้าวมากแน่ๆ ภาวนาให้ท่านได้เจอลูกสาวในเร็ววัน ท่านแก่มากแล้วควรจะสมหวังได้เจอลูกสาวและมีความสุขในบั้นปลายชีวิตสักที
“ก็ไม่รู้ว่าลูกสาวท่านอยู่ที่ไหน ทำไมไม่ติดต่อพ่อเลย ไม่คิดถึงไม่ห่วงพ่อบ้างหรืออย่างไร”
“หรือว่า...เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับลูกสาวท่าน” ดาญ่าว่าแล้วมองสบตาเทวัตใจคอไม่ดี ฤกษ์ที่ยืนฟังอยู่ด้านหลังอยากบอกเหลือเกินว่าหนูเล็กตายไปนานแล้ว มองไปทางวิจารณ์แล้วหันมองเทวัตอยากให้เขาเป็นลูกของตัวเองอย่างที่สงสัย จนเผลอหลุดปากออกไปว่าอยากให้คุณเทวัตเป็นหลานของท่านจริงๆ เขาหันขวับ
“อ้าวลุง เมื่อกี้ลุงพูดอะไรนะครับ ให้ผมเป็น หลานท่าน”
“ครับ ผมอยากให้คุณเป็นหลานของท่านเศรษฐีจริงๆ ต่อให้ชาตินี้ท่านไม่ได้เจอลูกสาวอีกแล้ว ยังไงท่านมีคุณ ท่านต้องมีความสุขแน่ๆครับ”
เทวัตตั้งใจมั่นถึงตัวเองจะไม่ได้เป็นหลานแท้ๆ แต่จะพยายามดูแลท่านเศรษฐีเท่าที่จะทำได้ ฤกษ์ถือโอกาสฝากท่านไว้กับเขา พอดีมีธุระสำคัญต้องไปทำ เทวัตเป็นห่วงฤกษ์อย่างบอกไม่ถูก ถามว่าจะกลับเมื่อไหร่
“แล้วผมจะรีบกลับครับไม่ต้องเป็นห่วง” ฤกษ์เดินจากไปอย่างตื้นตันใจที่มีคนห่วงใย...
ธุระสำคัญของฤกษ์คือการไปซุ่มรอเหิมอยู่หน้าสำนักงานทนายความของเขา กระทั่งงานเลิกเห็นทนายตัวแสบเดินหิ้วกระเป๋าเอกสารออกมาจากตัวตึกเดินไปยังที่จอดรถ ฤกษ์รีบสะกดรอยตาม แต่เหิมรู้ตัวเสียก่อน พอฤกษ์เลี้ยวพ้นมุมตึกเจอเขาดักรออยู่พร้อมปืนในมือ ถามเสียงกร้าวว่าเป็นใครตามมาทำไม
“มึงลืมกูไปแล้วเหรอ แต่กูไม่เคยลืมมึงเลยสักวินาทีเดียว”










