ตอนที่ 13
ถวิลเห็นพิมพ์สายกลับไปทั้งน้ำตาอย่างนั้นก็ใจเสียเหมือนกัน เดินมาบอกตะวันว่าคุณหนูคงเจ็บปวดมาก
“ข้าก็เจ็บเหมือนกัน แต่เวลาจะรักษาทุกอย่าง สักวันคุณหนูคงลืมข้าได้”
“ไม่ได้หรอกตะวัน ไม่มีผู้หญิงคนไหนลืมความรักครั้งแรกได้ ลูกก็ไม่มีทางลืมคุณหนูได้เหมือนกัน”
“ใช่ครับ ผมไม่มีวันลืม ผมจะเก็บคุณหนูไว้ในความทรงจำตลอดไป แต่สักวันหนึ่งข้างหน้าคุณหนูจะได้เจอและแต่งงานกับผู้ชายดีๆสักคน”
“แล้วถ้าเกิดคุณหนูแต่งงานกับคนไม่ดีอย่างปลัดล่ะ แม่กลัวว่าที่ลูกทำจะเป็นการทำเพื่อคุณหนูหรือผลักคุณหนูให้ไปอยู่ในจุดที่แย่กว่า ลูกจบบางเรื่อง แต่อีกเรื่องที่เลวร้ายกว่าอาจจะเกิดขึ้นก็ได้”
ฟังแม่แล้วตะวันอึ้งงันไปอย่างวิตกกังวล
ooooooo
ค่ำคืนพระจันทร์เต็มดวง คล้อยจะทำพิธีฆ่าสมิงอูซานเพื่อเอาหัวใจมาเสริมพลังอำนาจให้กับตนเอง และได้ช่วยแคล้วไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไป แต่พิธีของคล้อยก็ไม่สำเร็จเพราะอากาพะโยกับเจนจิตร่วมมือกัน!
อากาพะโยช่วยให้เจนจิตเป็นอิสระแล้วให้ไปเอาไม้เท้าของเขาที่คล้อยเก็บซ่อนไว้ เมื่อได้ไม้เท้า
อากาพะโยก็มีตัวช่วย ไม้เท้านั้นกลายเป็นงูยักษ์เข้าไปทำลายพิธีของแคล้วจนในที่สุดเจนจิตก็ได้หนังเสือนั้นมา
เมื่อคล้อยไม่มีสิ่งควบคุมอูซานได้ อุซานกลายร่างเป็นเสือขย้ำสมุนของคล้อยตายเกลี้ยง ส่วนเจนจิตรีบหนีไปจากตรงนั้นตามคำสั่งของอากาพะโย
คล้อยโกรธแทบคลั่งที่พิธีถูกทำลายย่อยยับ เขาพยายามไล่ยิงเจนจิตที่ได้หนังเสือไป แต่เพราะละล้าละลังเป็นห่วงลูกชายที่จะโดนอูซานทำร้ายจึงต้องย้อนกลับมาช่วยพาหนีหายไปท่ามกลางความมืด
เจนจิตวิ่งกระเซอะกระเซิงหนีไปสะดุดล้ม
หัวกระแทกขอนไม้สลบเหมือด แต่โชคดีได้จอปาช่วยไว้ เช้าขึ้นเธอรู้สึกตัวเห็นชายแปลกหน้าก็หวาดกลัวระวังตัวแจ
“ลุงเป็นใคร”
“บอกไปเอ็งก็ไม่รู้จักหรอก รู้แค่ว่าข้ามาเจอเอ็งนอนสลบ ถ้าปล่อยไว้ไม่ตายเพราะโดนเสือคาบไปกินก็อาจจะหนาวตาย หรือไม่ไอ้พวกนั้นก็ตามมาเจอ”
“เมื่อคืน...ลุงรู้ด้วยเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น”
“รู้สิ ข้าเห็นทุกอย่าง ไม่งั้นจะตามเอ็งมาถูกหรือวะ”
“ลุงไม่ใช่พวกนั้นใช่มั้ย”










