ตอนที่ 13
“ฉันสงสารลูกจริงๆ ไหนจะเจ็บช้ำหัวใจ แล้วยังต้องมาเจ็บตัวแบบนี้อีก”
“ทุกอย่างต้องมีทางออก พี่จะหาทางทำทุกอย่างเพื่อลูกของเรา ความเจ็บปวดของลูก พ่ออย่างข้าอยากจะรับมาไว้ทั้งหมดจริงๆ”
“ฉันก็อยากทำอย่างพี่ แต่ห่วงที่สุดก็เรื่องจิตใจของลูก”
“เรื่องความรักกับคุณหนูมันคงจบแล้วจริงๆ ตะวันต้องทำใจให้ได้ เราไม่เหมาะไม่คู่ควรกับเขาทุกเรื่อง เราควรให้ตะวันหันมามองคนที่คู่ควรเหมาะสมจะดีกว่า ซาเงคือผู้หญิงที่เหมาะสมที่จะเป็นคู่ชีวิตของลูกเรามากที่สุดนะถวิล”
ถวิลมองไปที่ซาเงแล้วพยักหน้าเห็นด้วย
ooooooo
ที่ปางไม้ สวัสดิ์พบสิ่งผิดปกติในรถขนไม้แปรรูปคันหนึ่ง เมื่อตรวจสอบด้วยตาตัวเองก็หัวเสียหนักสั่งไม่ให้รถคันนี้เคลื่อนย้ายไปไหน เมื่ออาคมรู้จากคนของตนที่มาส่งข่าวก็ไม่พอใจเอามากๆ
“อยากรู้นัก สวัสดิ์ถือดียังไงมากักรถขนไม้ของฉัน แล้วมีอะไรมากกว่านี้อีกไหม”
“ไม่มีครับนาย แต่ผมเห็นเสี่ยสวัสดิ์ค้นที่ไม้แล้วก็สั่งห้ามรถของเราออกจากปางไม้เลยครับ”
“แบบนี้ไม่ปกติแล้วนะพ่อ”
“งั้นต้องไปคุยให้รู้เรื่อง”
อาคมผลุนผลันออกไปพร้อมลูกชาย เมื่อถึงบ้านสวัสดิ์ก็เปิดฉากด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว
“ผมไม่เข้าใจ...ทำไมคุณต้องกักรถของผม”
“แล้วคุณทำอะไรกับไม้ของผมล่ะ ผมก็อยากจะรู้”
“ก็ได้ ผมจะบอกว่าทำไม แต่เราต้องคุยกันแค่สองคนเท่านั้น”
สวัสดิ์ตกลงโดยให้สอนออกไปก่อน และอาคมก็ต้องให้อรรถออกไปด้วยเหมือนกัน
สองคนคุยกันเคร่งเครียดในห้องรับแขก พิมพ์สายเห็นโดยตลอดและพอจะคาดเดาได้ว่าน่าจะเกี่ยวกับเธอด้วย
ส่วนที่บ้านเชิงดอย ตะวันปลอบใจซาเงที่ต้องสูญเสียพ่อกับแม่ ผู้กองกำพลซึ่งตั้งใจนำข้าวของมาให้ซาเงมาเห็นเธอซบไหล่ตะวันก็เข้าใจผิด เอาของมาฝากไว้กับถวิลแล้วจะกลับ แต่จ่าชัยที่คุยกับยองตะมุอยู่อีกทางรีบมาบอกผู้กองว่ามีพยานคนสำคัญในคดีที่เรากำลังตามอยู่
ยองตะมุพาผู้กองกับจ่ามาเจอซันโท่ย หลังจากพูดคุยกันไม่นานผู้กองกับจ่าก็ลากลับ โดยยองตะมุบอกว่าพร้อมเมื่อไหร่เขาจะพาซันโท่ยไปเจอผู้กองอีกครั้ง
ทางฝ่ายอาคมกับสวัสดิ์ที่คุยกันตามลำพังอย่างเคร่งเครียดมาสักพัก อาคมก็สรุปทิ้งท้ายเหมือนถือไพ่เหนือกว่า
“ผมจะให้เวลาคุณตัดสินใจนะสวัสดิ์ ถ้ายังไม่รับข้อเสนอของผม คุณเองจะเป็นฝ่ายเสียใจ...แล้วต้องให้คำตอบผมให้เร็วที่สุดนะ”










