ตอนที่ 13
คล้อยออกไปสักพักแคล้วก็เข้ามาลวนลามเจนจิตต่อหน้าสองพ่อลูก เจนจิตด่าทอมันอย่างรุนแรงหยาบคายแต่แคล้วไม่สะทกสะท้านแถมขู่กลับว่าถ้าตนเบื่อเมื่อไหร่จะโละเธอให้ลูกน้องที่จ่อคิวรออยู่
เจนจิตคับแค้นเป็นที่สุด ทั้งโกรธและขยะแขยงตะโกนด่าปาวๆ แต่แคล้วไม่ใส่ใจเดินยิ้มอารมณ์ดีออกไปราวกับฟังเสียงสรรเสริญ
“ไอ้พวกนรกกลับชาติมาเกิด...ฆ่ากูให้ตายไปเลยสิวะ”
อากาพะโยรู้เห็นโดยตลอดเตือนว่า “ชีวิตมีค่านะนังหนู รักษาชีวิตไว้ดีที่สุด”
“แบบนี้มันต่างจากตายตรงไหนล่ะลุง มันทรมานมากกว่าด้วยซ้ำ”
“ข้าเข้าใจความรู้สึกของเอ็ง”
“ถ้าหนีไม่ได้ฉันขอตายดีกว่า”
“แล้วเอ็งอยากหนีรอดไปจากที่นี่ไหมล่ะ”
เจนจิตหูผึ่งตาพอง...เพราะนั่นคือสิ่งที่เธอต้องการที่สุดในตอนนี้
ooooooo
ในขณะที่สวัสดิ์กับพิมพ์สายไปหาตะวันที่บ้านเชิงดอย ใจกำลังรอคอยการกลับมาของเจนจิตที่หายไปข้ามวันข้ามคืนอย่างไม่รู้ชะตากรรม
ศักดิ์ผ่านมาเห็นใจนั่งน้ำตาซึมถามว่าร้องไห้ทำไม ใจระบายความห่วงใยลูกสาวก่อนจะตั้งคำถามบ้างว่าเพราะตนดุด่ามันมากเกินไปหรือเปล่ามันถึงหายหน้าไปแบบนี้
“ไม่หรอก ถ้าน้าใจไม่ด่าไม่ว่าน่ะสิอาจจะหนักกว่านี้ ปล่อยให้เขาออกไปเผชิญโลกภายนอกบ้างก็ดี จะได้รู้อะไรมากขึ้น ถ้ารู้และเข้าใจอะไรจริงๆเขาคงกลับมาเองแหละน้า”
คำปลอบโยนของศักดิ์ทำให้ใจรู้สึกคลายความกังวลลงได้บ้าง...แต่ทางบ้านเชิงดอย ตะวันกำลังฝืนความรู้สึกตัวเองเพื่อจบความสัมพันธ์กับพิมพ์สายซึ่งจะเป็นผลดีกับตัวเธอเอง แม้อาจเจ็บปวดกันสักระยะแต่นานวันเวลาจะรักษาแผลใจของทั้งคู่ได้เอง
ตะวันตัดสินใจคบซาเงในฐานะคนรัก ในจังหวะนี้เองพิมพ์สายมาถึงพอดี เธอดีใจที่ได้พบทั้งตะวันและซาเง แต่แล้วหน้าซีดเผือด หูอื้อตาลายเหมือนหัวใจแตกสลายเมื่อได้ยินตะวันบอกว่าเขากับซาเงจะแต่งงานกัน
พิมพ์สายนิ่งอึ้งแทบหมดแรงยืน ฝืนใจแสดงความยินดีกับทั้งสองคนก่อนที่จะหันหลังเดินน้ำตาไหลพรากจากมาด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง...ตะวันเองก็เช่นกัน พูดคำนั้นออกไปแล้วก็เสียใจและสับสนว่าตัวเองทำถูกหรือไม่










