ตอนที่ 15
“อะไรนะ! ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะทำถึงขนาดนี้”
“ริสาทำได้เพราะริสาไม่ได้รักป้องแล้ว ริสารักหมอ ริสาเลยไม่แคร์คนทุกคนที่เกี่ยวข้องกับป้องแล้ว ตอนนี้ริสาไม่เคยคิดถึงใครนอกจากหมอเอกภูมิ”
ป้องกุลร้าวรานใจแต่สะกดมันไว้ สัมผัสรอยแดงบนแก้มแม่แล้วถามว่าเจ็บมากไหม?
“ไม่ลูก แม่เห็นป้องเป็นแบบนี้แม่เจ็บมากกว่า”
ป้องกุลไม่ทันเกมของเกศิริน เขากอดแม่และพูดอย่างรู้สึกผิด “ผมขอโทษนะครับที่ทำให้แม่ต้องเจ็บแบบนี้ ผมจะไม่ทำให้แม่ห่วงผมอีกต่อไป ผู้หญิงที่ชื่ออาริสาจะไม่อยู่ในชีวิตและหัวใจของผมอีกแล้ว”
เกศิรินอยู่ในอ้อมกอดลูกชาย แสร้งบีบน้ำตาทั้งที่สีหน้าแย้มยิ้ม ย้อนนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ขณะตัวเองขับรถมาจอดหน้าบ้านป้องกุลหลังจากแอบถ่ายรูปอาริสาอยู่กับหมอเอกมาได้ เธอลงทุนตบหน้าตัวเองแรงๆหลายทีเพื่อสร้างรอยแดงช้ำโกหกป้องกุลให้เกลียดอาริสา ซึ่งตอนนี้มันคุ้มค่ากับที่ลงทุน!
ooooooo
อาริสาพยายามตัดใจจากป้องกุลแล้วกลับมาตั้งสติอยู่กับการทำงานดูแลคนไข้ เมื่อใดที่เจอหมอเอกในช่วงเวลาเข้าเวรก็ทักทายกันตามปกติ วางตัวเฉยแม้รู้ว่าเขมและคนรอบข้างแอบลุ้นให้ทั้งคู่กลับมาคืนดีกันดังเดิม
ป้องกุลเองก็หายไปจากชีวิตอาริสา เขาอยู่กับอาม่าอย่างสงบเงียบ อ่านหนังสือให้ท่านฟังและทำอะไรเล็กๆน้อยๆเพื่อไม่ให้ตัวเองมีเวลาว่างมากเกินไป อาม่าเฝ้าสังเกตอาการหลานชายและพร้อมเติมเต็มให้กำลังใจ อยากให้เขารู้ว่าแค่มีอาม่าอยู่ข้างๆเขาก็อยู่ต่อไปได้
เมื่อมีเวลาว่างจากงานที่โรงพยาบาล อาริสาแวะมาช่วยลัดดาทำกายภาพถึงบ้าน หมอเอกกลับมาเห็นก็มีรอยยิ้มและมีความหวังว่าสักวันอาริสาคงใจอ่อน แล้ววันนั้นเขาจะนำแหวนแต่งงานที่เธอ
ถอดคืนไปสวมนิ้วเธออีกครั้งให้จงได้...
สองเดือนผ่านไป อาริสายังคงทำงานตามปกติ ซึ่งงานในแต่ละวันก็วุ่นวายมีคนไข้อุบัติเหตุถูกส่งตัวมาหลายรายทำให้เธอกับเขมวิ่งวุ่นเพื่อช่วยเหลือคนไข้เบื้องต้นก่อนถึงมือหมอ
วันหนึ่งอาริสารู้สึกวิงเวียนแทบทรงตัวไม่อยู่ ต้องใช้มือยันผนังพยุงตัวเอง หมอเอกผ่านมาเห็นก็ปรี่เข้าไปถามอย่างห่วงใย
“ริสา...คุณเป็นอะไรรึเปล่า”
อาริสาสายตาพร่ามัวเห็นหน้าหมอเอกเบลอไปหมด วิงเวียนศีรษะเหมือนจะเป็นลมแต่พยายามเข้มแข็ง
“ไม่เป็นไรค่ะ”
ตอบเสร็จเธอจะผละไปทำงานต่อ แต่ต้องชะงักเพราะเวียนศีรษะและหน้ามืดล้มลงในที่สุด โชคดีที่หมอเอกอยู่ใกล้จึงประคองเธอได้ว่องไวก่อนพาไปที่ห้องตรวจ
อาริสานอนสะลึมสะลือบนเตียงผู้ป่วย ไม่ได้มีน้ำเกลือหรืออะไรใดๆ แค่เป็นลมและตรวจร่างกายเท่านั้น เธอปรือตาเห็นหมอเอกยืนข้างเตียงจับมือตนไว้
“ริสา...คุณมีอาการเวียนหัวมากี่วันแล้ว”
“ไม่นานหรอกค่ะ พักนี้ริสานอนน้อยด้วย อยู่เวรติดๆกัน”
“อาเจียนรึเปล่า”
อาริสาฟังคำถามของหมอเอกแล้วเริ่มเอะใจ คิดทบทวนถึงอาการตัวเองว่ามีอะไรผิดปกติ
“ประจำเดือนของคุณไม่มีกี่เดือนแล้วริสา ประมาณ 2 เดือนแล้วใช่ไหม”
คำถามนั้นเล่นเอาอาริสาอึ้งไปครู่ก่อนตอบดักคอเขา “ไม่จริงหรอกค่ะหมอ ริสาอยู่กับหมอมา 10 ปี เราพยายามทุกทางยังไม่ท้องเลย”
“แต่ตอนนี้คุณท้อง...ผมตรวจแล้วคุณท้อง”
อาริสาตกใจและคาดไม่ถึง นิ่งอึ้งไปนานก่อนจะพาตัวเองออกจากห้องนั้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด นึกย้อนคำพูดยืนยันของหมอเอกที่บอกว่าเธอท้องซ้ำไปซ้ำมา...สับสนว่าตัวเองควรทำอย่างไรเพราะในใจเชื่อว่าเด็กเป็นลูกของป้องกุล
เขมวิ่งมาจากอีกทางสีหน้ายิ้มแย้มต่างจากอาริสาอย่างสิ้นเชิง
“ริสา...ฉันดีใจด้วยนะ เธอกับคุณหมอรอวันนี้มานาน ในที่สุดเธอกับหมอก็มี...”
“เธออย่าเพิ่งพูดอะไรเลย ตอนนี้เวลาทำงาน ไปทำงานก่อน” อาริสาแทรกเสียงแข็งไม่อยากฟังเขมแสดงความยินดีเพราะตัวเองกำลังเครียดแล้วเดินหนีไป เขมไม่ทันสังเกตอาการของเพื่อนรีบก้าวตาม
“เดี๋ยวริสา ฉันบอกหัวหน้าแล้วว่าเธอเป็นอะไร หัวหน้าให้เธอลาครึ่งวันแล้วกลับไปพักได้เลย”
อาริสาหยุดชะงัก...หันกลับมาชักสีหน้าอย่างลืมตัว “เธอบอกอะไรหัวหน้า เธอบอกว่าฉันท้องเหรอ”
“ใช่สิ ทุกคนดีใจกันใหญ่เลย”
“เธอบอกคนอื่นทำไมเขม นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉันนะ”
“เธอเป็นอะไรริสา เธออยากมีลูกไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเธอดูไม่ดีใจเลย”
อาริสาไม่รู้จะพูดยังไง บอกสิ่งที่อยู่ในใจกับใครตอนนี้ไม่ได้ เธอสับสนและเครียดจึงตัดสินใจเลี่ยง
“หัวหน้าให้ฉันลาครึ่งวันใช่ไหม งั้นฉันขอกลับบ้านก่อนนะ”
พูดจบอาริสาเดินออกไปทันที ทิ้งให้เขมยืนอึ้ง งง และสังหรณ์ใจ!
ooooooo
อาริสากลับมาถึงบ้านเขมได้ไม่นาน หมอเอกก็พรวดพราดตามเข้ามาด้วยท่าทีห่วงใยเธอมาก
“ริสา...ผมบอกแล้วไงว่าให้รอผมที่ห้องพักฟื้น ผมไปดูคนไข้แป๊บเดียวแต่ผมกลับมาไม่เจอคุณแล้ว ผมเลยตามมา”
“หมอคะ...”
“ริสายังเวียนหัวอยู่รึเปล่า หรือมีอาการแพ้อย่างอื่นไหม”
อาริสาไม่อยากเห็นเขาห่วงจึงตัดสินใจพูดสิ่งที่คิดออกไปเพื่อตัดปัญหากับเขา “เด็กไม่ใช่ลูกของหมอ”
หมอเอกชะงักแต่ยังพยายามคิดเข้าข้างตัวเอง “ทำไมเขาจะไม่ใช่ลูกผม ริสาท้องสองเดือน เรายังอยู่ด้วยกัน”
“ถึงอยู่ด้วยกัน แต่หมอก็รู้ว่าเราไม่มีอะไรกันมานานแล้ว”










