ตอนที่ 15
เกศิรินเฝ้ารอป้องกุลกลับบ้านตั้งแต่เช้ายันเย็น ก็ยังไร้วี่แวว เพียรโทร.หานับสิบครั้งก็ไร้การตอบรับ เพราะเขาปิดเครื่องตลอด ทำให้เธอหงุดหงิดเหลือหลาย ด้วยกลัวลูกชายจะกลับไปหาอาริสา
สุดท้ายเกศิรินตัดสินใจโทร.หาอดีตแม่ผัวทั้งที่ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว
“สวัสดีค่ะอาม่า...เกศเองนะคะ ป้องอยู่กับอาม่ารึเปล่าคะ เกศโทร.หาป้องตั้งแต่เมื่อคืน ป้องไม่ยอมรับสาย ส่งแค่ข้อความว่าอยู่บ้านอาม่า...วันนี้เกศโทร.หาป้องทั้งวัน ป้องก็ปิดเครื่องอีก”
“ป้องออกไปตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว ถามว่าจะไปไหนก็ไม่ยอมบอก ยังไงอาม่าจะช่วยโทร.หาเพื่อนๆของป้อง ถ้าได้ข่าวอาม่าจะบอกนะ”
“ขอบคุณค่ะ ถ้าป้องอยู่กับเพื่อนเกศไม่ว่า แต่อย่าอยู่กับคนอื่นแล้วกันค่ะ”
“เธอหมายถึงใคร”
เกศิรินนึกถึงอาริสาแต่ไม่ได้ตอบออกไปหลังจากนั้น เธอมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล เป็นจังหวะที่เขมออกจากห้องฉุกเฉินเพื่อจะรับคนไข้ที่เพิ่งมา แต่เกศิรินไม่สนใจอะไรทั้งนั้นปรี่มาขวางเขมเอาไว้
“ถอย! ฉันจะรีบไปรับคนไข้”
“เพื่อนเธออยู่ไหน” เกศิรินถามดุดัน แววตา แข็งกร้าวเอาเรื่อง
เวลานั้นภายในห้องตรวจ หมอเอกกำลังเขียนรายงานในแฟ้ม อาริสาเดินเข้ามาบอกเขาว่า
“คนไข้ของหมอหมดแล้วนะคะ ริสาขอกลับไปทำงานของริสาก่อน”
อาริสาจะไปแต่หมอเอกรีบลุกมาจับมือเธอไว้ มองมือที่มีผ้าพันแผลอันเก่า
“คุณยังไม่ได้ทำแผลเลย มาให้ผมทำแผลก่อนนะ”
อาริสาจะปฏิเสธแต่หมอเอกไม่ยอม อ้างว่าขอตอบแทนที่เธอมาช่วยงานตน พูดจบหมอรวบรัดดึงมืออาริสามานั่งที่เก้าอี้ข้างโต๊ะวางอุปกรณ์ทำแผล แล้วดึงเก้าอี้อีกตัวมานั่งใกล้ๆ ทำแผลให้เธออย่างนุ่มนวล
“เจ็บไหม”
“ไม่ค่ะ”
“แผลคุณอักเสบนะ ผมต้องฆ่าเชื้อ”
หมอเอกหยิบน้ำเกลือมาล้างแผลบนมืออาริสาก่อนใส่ยา เสร็จแล้วพันผ้าให้ใหม่พลางมองหน้าเธอเหมือนจะเว้าวอนแต่ไม่กล้าพูดตรงๆ
“ถ้าริสาว่าง...กลับบ้านบ้างก็ได้นะ อย่างน้อยไปเยี่ยมคุณแม่ผม”
“คุณแม่กลับบ้านแล้วเหรอคะ”
“กลับแล้ว จริงๆผมอยากให้อยู่ทำกายภาพต่อ แต่คุณแม่ไม่อยากอยู่โรงพยาบาล”
“แล้วอาการคุณแม่ตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ”
“คุณแม่ยังเดินไม่ไหว ต้องใช้รถเข็น คุณแม่อยากให้ผมอยู่บ้านดูแลแต่ผมเพิ่งลาหยุด ผมทิ้งคนไข้อีกไม่ได้ ถ้าริสาว่างไปเยี่ยมคุณแม่บ้างนะ แต่ถ้าริสายังโกรธคุณแม่ ไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ”
อาริสามองหมออย่างอึกอัก ใจหนึ่งอยากไปเยี่ยม แต่อีกใจก็กลัวมีเรื่องจึงยังไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ
ทันใดนั้นเกศิรินเปิดประตูห้องเข้ามาเห็นหมอเอกนั่งจับมืออาริสาก็ชะงักอย่างเจ็บลึก พูดแดกดัน
“ช่างเป็นภาพที่อบอุ่นจังนะคะ”
อาริสาเพิ่งรู้สึกตัวรีบดึงมือออกแล้วลุกขึ้นยืน ขณะที่หมอเอกออกอาการเอือมๆ ถามเกศิรินว่า
“คุณมาทำไม”
“แหม...พอเกศไม่มีลูกให้หมอ น้ำเสียงที่พูดกับเกศฟังเหมือนเราเป็นคนอื่นเลยนะคะ ไม่เหมือนคนที่เคยเป็นชู้กันมาก่อน”
“เกศ!! ผมว่าถ้าคุณมาหาเรื่อง...”
“เกศไม่ได้มาหาเรื่อง แต่มาหาผู้หญิงที่เคยนอนกับลูกชายของเกศ...เอาลูกชายฉันไปไว้ไหน”
เกศิรินจ้องหน้าอาริสาอย่างเอาเรื่อง อาริสารู้ว่าตนเคยผิดเรื่องป้องกุล แต่ตอนนี้จบกันแล้วจึงตอบโต้อย่างไม่ยอม
“ถ้าลูกหายก็ไปตามที่อื่น อย่ามายุ่งกับฉัน”
“ฉันต้องยุ่ง เพราะฉันเคยคิดว่าเธอไม่น่าทำอะไรได้ แต่ฉันคิดผิด เธอกล้ากว่าที่ฉันคิด กล้าเอาตัวไปนอนกับผู้ชายคราวลูกได้เพื่อแก้แค้นฉัน”
“หยุดได้แล้วเกศ” หมอเอกเสียงแข็ง ขวางหน้าเกศิรินไว้ ขณะที่อาริสาก็ท่าทางไม่ยอมเป็นเป้านิ่งเหมือนกัน สวนกลับเกศิรินอย่างขึงขัง
“ไปตามหาลูกที่อื่น เรื่องของฉันกับเธอและลูกของเธอมันจบแล้ว...ริสาไปก่อนนะคะหมอ”
อาริสาตัดบทเดินผ่านเกศิรินออกจากห้องไป เกศิรินจะตามแต่หมอเอกดึงแขนไว้
“ลูกคุณไม่ได้มาหาริสา ลูกคุณกับริสาจบกันตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
เกศิรินสะบัดแขนออกจากมือหมอเอก แล้วพูดปั่นให้เขาอยู่กับอาริสาไม่มีความสุข
“หมอรู้ได้ยังไงว่าสองคนนั้นจบจริง หมอจำได้ไหมตอนหมอหลงเกศ หมอไม่เหลือริสาในสายตา ตอนนี้ริสาก็เหมือนหมอตอนนั้นแหละ ลูกของเกศทั้งเด็กกว่า ใหม่กว่าหมอ แล้วเท่าที่เกศเห็นอาการของลูกกับริสา ความผูกพันของสองคนนั้นอาจจะมีมากกว่าความรัก 10 ปีของหมออีกมั้ง ระวังคนที่โดนทิ้งคราวนี้จะเป็นหมอนะคะ”
เกศิรินทิ้งระเบิดเอาไว้ให้หมอเอกหวาดระแวงแล้วสะบัดออกไป หมอเอกเครียด...รู้ว่าเกศิรินพูดถูกแต่จะหาทางทำให้อาริสาเชื่อใจเขาอีกครั้ง
ooooooo
เมื่อคว้าน้ำเหลวไม่เจอป้องกุลและยังไม่รู้ด้วยว่าเขาอยู่ที่ไหน เกศิรินบึ่งรถไปร้านกาแฟของป้องกุลที่หุ้นกับจิล พอจอดรถเห็นตุลเดินมาที่มอเตอร์ไซค์ของตัวเอง เกศิรินรีบร้อนก้าวตามแทบจะวิ่งไล่ตรงมาหาตุล
“เธอใช่ไหมที่ชื่อตุลเพื่อนของป้อง”
ตุลหยุดชะงักก่อนยกมือไหว้ “สวัสดีครับ คุณน้ามีอะไรเหรอครับ”
“ป้องอยู่ไหน”










