ตอนที่ 15
“แล้วที่ป้องนั่งกินเหล้ากับนังสุนิดาคืออะไร ป้องทำงานอะไร”
“แม่ดูไม่ออกเหรอว่าผู้ชายรับเงินผู้หญิงเพื่ออยู่เป็นเพื่อนทั้งคืนเรียกว่างานอะไร”
เกศิรินง้างมือจะตบหน้าป้องกุล แต่ชะงักค้างถามปากสั่นระริก “ทำไมป้องไม่บอกแม่ว่าป้องทำงานนี้”
“ถามตัวแม่ดีกว่าว่าเคยสนใจผมมั้ย เคยมีเวลาให้ผมบอกอะไรแม่มั้ย”
“ป้อง...”
“แม่กับริสาก็เหมือนกันนั่นแหละ ทำเหมือนรักผม แต่สุดท้ายก็ทิ้งผมกันทั้งนั้น”
ป้องกุลระเบิดอารมณ์แล้วเดินจากไป เกศิรินเจ็บแค้น...ไม่โทษตัวเองที่ทำชีวิตลูกเป็นแบบนี้ เอาแต่โทษอาริสาเต็มๆว่าล่อหลอกป้องกุลจนมาทำอาชีพไซด์ไลน์
คืนเดียวกัน อาริสาเลิกงานกลับถึงบ้านก็หมกมุ่นครุ่นคิดแต่เรื่องรูปถ่ายสุนิดาจูบป้องกุล เธอทั้งโกรธ เสียใจ และหงุดหงิด แล้วคิดจะโทร.หาป้องกุล แต่ชะงักมองมือที่มีแผลและอดนึกถึงคำพูดของตนที่โต้ตอบกับเขมขึ้นมาไม่ได้
“แต่หมอคือความจริงที่เธอจับต้องได้นะริสา”
“เธอลืมไปแล้วเหรอว่าหมอเคยทำอะไรฉัน”
“จำได้...ตอนหมอทำเธอเสียใจ ฉันก็โกรธ แต่พอเห็นหมอสำนึกผิดแล้วก็พยายามแก้ไข ฉันก็
อดสงสารหมอไม่ได้ ระหว่างหมอกับลูกชายของเกศ เธอรู้อยู่แก่ใจว่าใครที่เป็นไปได้ เธอจะไม่ให้โอกาสหมออีกเลยเหรอริสา”
อาริสาน้ำตาคลออย่างเจ็บปวดและสับสน อยากคุยกับป้องกุล...แต่ไม่กล้าโทร.ไป
ขณะเดียวกันป้องกุลเข้าห้องนอนภายในบ้านแต่ไม่ยอมเปิดไฟราวกับไม่อยากรำลึกนึกถึงภาพอาริสาที่เคยนอนบนเตียงเดียวกัน แต่สุดท้ายก็หักห้ามใจตัวเองไม่ได้เดินมาลูบไล้ที่นอนด้วยความคิดถึงเธอเหลือเกิน...แล้วนึกถึงคำพูดของสุนิดา
“ตอนแรกริสาก็คิดกับป้องอย่างนั้น...แต่พอริสาอยู่กับป้อง ริสาดันรักป้องขึ้นมาจริงๆ บอกเลยริสาไม่คืนดีกับสามีแน่เพราะเขายังมีป้องในหัวใจ ถ้าริสากลับมาหาป้อง ป้องจะอภัยให้ริสาไหม”
ณ ตอนนั้นเขาไม่ได้ตอบคำถาม...แต่เวลานี้เขาบอกตัวเองว่าอยากกลับไปหาอาริสาเหมือนเดิม!
ooooooo
วันรุ่งขึ้น การบูรกับศรีรุ้งไปกินอาหารร้านหรูราคาแพงตามนิสัย แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนที่ผ่านๆมาเพราะเกิดมีปัญหาตอนการบูรใช้บัตรเครดิตชำระค่าอาหารแล้วไม่ผ่าน
“ขอโทษนะคะคุณลูกค้า พอดีบัตรเครดิตของลูกค้าไม่สามารถรูดได้ ไม่ทราบว่ามีบัตรอื่นไหมคะ”
พนักงานสาวนำบัตรเครดิตมาคืนและพูดด้วยท่าทีเกรงใจ สองแม่ลูกเลิ่กลั่กมองกันไปมาอย่างกลัวเสียหน้าและกลัวลูกค้าคนอื่นมอง การบูรรีบกลบเกลื่อนทำเป็นไม่พอใจพนักงานและตีเนียนหยิบบัตรคืนมา
“บัตรฉันเป็นบัตรแบบไม่จำกัดวงเงินจะรูดไม่ผ่านได้ยังไง เครื่องรูดบัตรร้านเธอเสียรึเปล่า”
“ไม่เสียนะคะ เพราะบัตรลูกค้าคนอื่นก็รูดได้ค่ะ”
“เธอไปเช็กเครื่องรูดบัตรของร้านให้ดีๆ เดี๋ยวฉันจะโทร.ถามธนาคาร ถ้าบัตรฉันไม่มีปัญหา ฉันเอาเรื่องแน่”
พนักงานสาวหน้าเสียเดินออกไป การบูรหันมาพูดเสียงเบาแต่ท่าทีวีนใส่ศรีรุ้ง
“แม่...ทำไมบัตรของหนูรูดไม่ได้ แม่จ่ายค่าบัตรรึยัง”
“ค่าบัตรของฉันฉันยังไม่มีเงินจ่ายแล้วจะเอาปัญญาที่ไหนไปจ่ายค่าบัตรให้แก แกมีเงินสดไหมจ่ายไปก่อน”
การบูรหยิบเงินจากกระเป๋าอย่างหงุดหงิด “ไหนแม่บอกว่าขายที่ดินได้เงินมาแล้วไง ทำไมถึงไม่มีเงิน”
“ก็คนซื้อมันเปลี่ยนใจไม่ซื้อแล้ว เออนี่ แกสนิทกับลูกชายคุณเพทายที่เป็นเศรษฐีที่ใต้น่ะ แกให้ลูกชายเขาซื้อที่ดินเราสิ”
“ใช่ หนูสนิท แต่ไม่ใช่สนิทแบบเป็นผัวเป็นเมีย แต่สนิทแบบเพื่อนสาว เข้าใจไหมแม่ มันทำมาจีบหนูเพื่อใช้หนูเป็นสะพานไปกินเพื่อนผู้ชายอีกคน”
“อ้าว...งั้นเดี๋ยวเราไปเยี่ยมป้าลัดดากัน ได้ข่าวว่าตอนนี้กลับมาอยู่บ้านแล้ว”
“ไม่เอาหรอก บูรก็อยากได้พี่เอกนะ แต่ถ้าต้องมีแม่ผัวพิการเดินไม่ได้ให้หนูต้องตามเช็ดขี้
เช็ดเยี่ยวหนูไม่เอา หนูไปจับผู้ชายคนอื่นดีกว่า”
การบูรวางแบงก์พันสองใบบนโต๊ะและไม่รอเงินทอนเพราะไม่อยากเจอพนักงานให้เสียหน้าว่าบัตรตัวเองรูดไม่ได้จริงๆ พอลูกสาวลุกเดินออกจากร้าน ศรีรุ้งรีบดูบิลแล้วหยิบแบงก์พันหนึ่งใบใส่กระเป๋าตัวเองก่อนหยิบแบงก์ย่อยวางแทนให้พอดีค่าอาหาร แล้วออกจากร้านตามไปเคี่ยวเข็ญการบูรอีก
“แม่ต้องขายรถของแก”
“ไม่ได้นะแม่ หนูไม่ยอมนั่งรถแท็กซี่ไปไหนต่อไหนเด็ดขาด หนูอาย”
“ถ้าแกไม่อยากเสียรถแกก็ต้องไปดูแลป้าลัดดา ถ้าแกไม่อยากเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวคนพิการอย่างนั้น สะกิดหน่อย ก็ตกบันไดตายแล้ว”
“เดี๋ยวแม่ นี่แม่จะให้หนูฆ่าคนเหรอ”
ศรีรุ้งตกใจรีบเอามือปิดปากลูกสาวไม่ให้พูดเสียงดัง
“เปล่า แม่แค่พูดอะไรก็ได้ให้แกกลับไปหาเอก ตอนนี้เราไม่มีทางเลือกมากแล้วนะ ถ้าแกจะไปจับผู้ชายคนอื่น กว่าจะฝ่าด่านพ่อแม่พี่น้องโคตรเหง้าได้มันก็ต้องใช้เวลา แต่กับเอก...ป้าลัดดาเขาอยากได้แกอยู่แล้ว แกก็ฝืนดูแลหน่อย”










